…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ท่าทางของถังเหว่ยเองก็เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวงซึ่งรวมไปถึงหลี่เสี่ยวจี่ด้วย

21 ?

มันสมองของตระกูลซันที่มีอำนาจนั้นก็มีประมาณแค่30คนเท่านั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาฆ่าไปเท่าไหร่กัน ? แล้ววันนี้อีก 1 ชั่วโมงถังซิ่วเองก็ได้ฆ่าไปอีก 21 งั้นหรอ ?

หากพูดอีกนัยหนึ่งคือ

แกนหลักของตระกูลซันเกือบถูกฆ่าแทบทั้งหมด

ถังเหว่ยเองก็ได้กลืนน้ำลายพร้อมกับถามออกมาว่า

“น้องชาย นาย…………ไม่ได้โกหกใช่ไหม ? นายฆ่าคนในบัญชีดำไปถึง 21 คนเลยงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า

“แน่นอนเพราะบัญชีนี้ฉันเป็นคนเขียนขึ้นมาเอง ฉันสามารถแยกแยะได้ทันทีว่าใครเป็นใครยิ่งไปกว่านั้นฉันเองก็พบเรื่องที่น่าสนในเป็นอย่างมาก ไม่นานหลังจากนี้ตระกูลซันจะไม่เป็นศัตรูของเราอีกต่อไป ”

ถังเหว่ยเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสับสนว่า

“หมายความว่ายังไงงั้นหรอ ? ”

ถังซิ่วได้ยิ้มตอบพร้อมพูดว่า

“เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ ”

ณ ตอนนี้เอง

ที่บ้านหลักตระกูลซันเองก็มีชายชรา อ่อนแอ ป่วยและพิการที่รีบตรงมาที่สวนบ้านทันที พวกเขาได้ตะโกนออกมา เมื่อหน่วยลาดตระเวนได้มาถึงพร้อมกับนำศพออกมาแล้วพวกเขาก็ร้องไห้โหยหวนกันทันที

หลี่ยี่ได้เดินไปพร้อมกับหน่วยลาดตระเวนสองคนด้วยท่าทางออกคำสั่ง หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้สั่งให้นำศพไปรวมกันที่ลาน

ณ ตอนนี้

เขารู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากเพราะจากบ้านที่ถูกฆ่านั้นอยู่ไม่ห่างจากเขามากทว่าศัตรูกลับไม่ได้ลงมือกับเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ใช่คนตระกูลซันอยู่แล้ว

อำเภอกัง ลิเวอร์เบย์

ซันเฟย์หลี่และเหยาซินหัวเพิ่งจะวางแผนการกันเสร็จ พวกเขาได้แบ่งกองกำลังของกันและกัน แม้ว่าวันนี้พวกเขาจะเสียหายเป็นอย่างมากแต่ซันเฟย์หลี่เองก็มั่นใจเป็นอย่างมากว่าสามารถล้มตระกูลถังได้แม้ว่าจะต้องใช้ความช่วยเหลือของตระกูลเหยาก็ตาม พวกเขาจะขึ้นเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดกวนหยาง

“ริ้งงงงงงงงงง ริ้งงงงงงงงง”

เสียงเรียกเข้าเองก็ดังขึ้นและขัดจังหวะการพูดคุยของทั้งสองคน

คิ้วของซันเฟย์หลี่เองก็ได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะพบว่าคนที่โทรมานั้นคือภรรยาของเขา ทันใดนั้นเขาเองก็รู้สึกแปลกๆพร้อมกับกดปุ่มตอบรับแล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า

“ฉันกำลังยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญ เดี๋ยวจะกลับไปช่วงค่ำๆหากว่าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญก็อย่าได้มารบกวนฉัน”

“สามี เกิดอุบัติเหตุขึ้น ”

เสียงร้องไห้ของภรรยาเขาก็ได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย

ท่าทางของซันเฟย์หลี่เองก็เปลี่ยนไปก่อนที่จะถามออกมาทันทีว่า

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

“ตระกูลของเราจบสิ้นแล้ว !”

ภรรยาของเขาเองก็ได้สะอื้นออกมา

ซันเฟย์หลี่ได้ตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“ฉันยังไม่ตายและตระกูลของเราก็ไม่มีทางจบสิ้น ! ไหนพูดมาสิว่าเกิดอะไรขึ้น ? ”

หญิงคนนั้นเองก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำตาที่เอ่อนองว่า

“สามี มีคนบุกเข้ามาในบ้านหลักของเราและฆ่าคนไปมากมาย เฟย์หวูตาย ซันเหว่ยตาย เขวียนจินก็ตาย ผู้สืบทอดสายตรงของเราทั้งหมดตาย แกนหลักของตระกูลเองก็ตายไป 21 คน”

“อะไรนะ ? ”

ซันเฟย์หลี่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความโกรธโดยทันที

เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองเพิ่งได้ยินไปเพราะบ้านหลักของเขามีกองกำลังที่แข็งแกร่งวางเอาไว้มากมายแล้วมันจะไปมีคนที่สามารถลอบเข้าไปฆ่าคนได้ไง ?

และ …..

สามารถฆ่าแกนหลักของตระกูลไปได้มากมายขนาดนั้น ?

“อีเวร นี่เธอล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม ? เรื่องนี้มันไม่ตลกนะ ”

หญิงสาวคนนั้นเองก็ได้สะอื้นออกมาหนักกว่าเดิมพร้อมกับพูดว่า

“ไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริงๆ ตระกูลซันของเราจบแล้ว ”

ร่างกายของซันเฟย์หลี่เองก็สั่นพร้อมกับโทรศัพท์ของเขาได้ตกลงไปที่พื้นโดยทันที

เหยาซินหัวเองก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า

“หัวหน้าตระกูลซัน เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ ? ”

ซันเฟย์หลี่เองก็ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าที่เป็นห่วงของเหยาซินหัวก่อนที่จะหมดแรงบนโซฟาแล้วพูดว่า

“ตาย แกนหลักของตระกูลฉันตายหมดแล้ว ”

ท่าทางของเหยาซินหัวเองก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาได้กระชากคอเสื้อของซันเฟย์หลี่ขึ้นมาก่อนที่จะตะโกนว่า

“นายพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน ? ใครมันจะไปมีความสามารถพอที่จะฆ่าแกนหลักของตระกูลซันได้ ? ”

ซันเฟย์หลีเองก็ได้แต่ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า

“ฉันก็ไม่รู้ ภรรยาของฉันเป็นคนโทรมาบอกว่าหากไม่รวมหน่วยลาดตระเวนที่ตายไปก็มีแกนหลักของตระกูลตายไป21คน ”

เหยาซินหัวเองก็ได้ปล่อยคอเสื้อของหัวหน้าตระกูลซันทันทีก่อนที่จะแสดงใบหน้าที่หวาดกลัวออกมาแล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าว เขาใช้แรงทั้งหมดเพื่อกลืนน้ำลายเพราะตระกูลซันนั้นเป็นถึงเจ้าถิ่นของจังหวัดนี้ แกนหลักที่มีอำนาจระดับสูงเองก็มีประมาณ30คนก่อนหน้านี้ก็ตายไปหลายคนและตอนนี้ตายเพิ่มไปอีก 21คน

นั่น…….

แล้วมันยังจะไปเหลืออยู่อีกกี่คน ?

เหยาซินหัวเองก็ได้ข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้พร้อมกับตะโกนออกมาว่า

“ไปกัน เราจะไปที่ตระกูลซันทันที”

จังหวัดฟูคัง ตระกูลฮ่วง

ฮ่วงจินฟูที่กำลังหลับอยู่นั้นก็ได้ตื่นขึ้นโดยเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเขา หลังจากที่เขาต่อสายสนทนาแล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

ใช่แล้ว

จากข้อมูลที่เขาเพิ่งได้มานั้นทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก

แกนหลักของตระกูลซันถูกฆ่าล้างตระกูลภายในข้ามคืนเท่านั้น จำนวนของศัตรูเองก็ไม่เป็นที่แน่ชัดแต่ว่าน้อยมาก เท่าที่พบก็มีเพียงแค่2คนเท่านั้น

“ฮ่า ฮ่า ห้องอาหารร้อยงานฉลอง…….แน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าไปเป็นศัตรูกับพวกเขาตระกูลซันก็ต้องจบอย่างแน่นอน ตระกูลเหยา….หากว่าห้องอาหารร้อยงานฉลองส่งคนทั้งหมดออกมาก็น่าจะสามารถฆ่าล้างตระกูลเหยาได้…..โดยไม่มีปัญหา ? ”

ฮ่วงจินฟูเองก็ได้ตระหนักพร้อมกับโทรไปหาเบอร์ๆหนึ่งทันที

“เพื่อนเก่า เร่งให้เร็วขึ้นหน่อย อย่างดีก็ควรจะเป็นวันพรุ่งนี้ที่ใบหยางจะได้กลับไปตระกูลของเขา ”

“ฉันรู้แล้ว เมื่อกี้เพิ่ง……..”

“นายเองก็ได้รับข่าวแล้วงั้นหรอ ? ”

“ใช่ !”

ฮ่วงจิงฟูเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“ตอนนี้นายน่าจะรู้แล้วใช่ไหมว่าห้องอาหารร้อยงานฉลองมีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวขนาดไหนกัน ? อย่าว่าแต่ตระกูลซันเลยต่อให้เป็นตระกูลฮ่วงของฉัน หาก………ตระกูลของฉันก็สามารถถูกฆ่าล้างตระกูลได้ภายในข้ามคืน”

“เพื่อนจินฟู ไหนนายลองพวกฉันมาหน่อยสิว่าขุมพลังของห้องอาหารร้อยงานฉลองนี่คืออะไรกันแน่ ? ”

เสียงของชายวัยกลางคนเองก็ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย

ฮ่วงจินฟูได้ฝืนยิ้มพร้อมกับพูดออกมาว่า

“ฉันเองก็ไม่รู้ มันลึกลับและน่ากลัวเป็นอย่างมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนของห้องอาหารร้อยงานฉลองนั้นเป็นคนที่ไม่เตะตาเลยแม้แต่น้อย ”

“ฉันเข้าใจแล้ว นายวางใจได้เลยว่าฉันจะไม่ส่งคนไปตรวจสอบเบื้องหลังพวกเขาอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นฉันก็จะจัดการเรื่องที่รับมอบหมายมาให้เร็วที่สุด อ่อใช่ หากว่านายได้พบกับ…..ลองถามเขาดูหน่อยว่าต้องการจะเปิดสาขาที่จังหวัดกวนหยางหรือไม่ ตระกูลของฉันจะช่วยเหลือและไม่ขวางทางเขาอย่างแน่นอน”

“ได้ ”

การสนทนาได้สิ้นสุดลง

ท่าทางของฮ่งจินฟูเองก็ซับซ้อนมากๆ หลังจากที่เขาวางสายแล้วก็ได้สวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เขามองไปที่บรรยากาศที่มืดมิดก่อนที่จะถอนหายใจ

“ใครจะไปคิดกันว่าค่ำคืนที่เงียบสงบแบบนี้ตระกูลซันจะได้รับความเสียหายไปขนาดนั้น ? การที่ตระกูลชูเข้าหาห้องอาหารร้อยงานฉลองได้นั้นก็ถือเป็นเรื่องดี หลังจากนี้ตระกูลฮ่วงของฉันเองก็คงจะได้ร่วมมือกับตระกูลชูแบบลับๆ”

เมืองหลวง

ถังเกาเชิงได้ตื่นขึ้นจากเสียงรอบข้าง ทันใดนั้นเขาก็ได้โทรไปหาถังซิ่วก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

หากเทียบกับถังเกาเชิงแล้วหัวหน้าตระกูลเหยา เหยาชิงซุนนั้นข่มตาหลับไม่ลง เขาได้นั่งอยู่อย่างนั้นก่อนที่จะโทรไปหาเหยาซินหัวพร้อมทั้งพูดแค่สี่คำเท่านั้น

“เปลี่ยนรุกเป็นรับ”

เช้าวันรุ่งขึ้น

รถAudiสองคันเองก็ได้ขับไปถึงเซฟเฮ้าส์แถวๆแม่น้ำ หลังจากนั้นชายวัยกลางคนหลายคนก็เข้าไปหลายนาทีก่อนที่จะรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ในห้องขังที่ไม่มีอะไรเลย ใบหยางกำลังนั่งมองไปที่กำแพงสี่มุมพร้อมกับสูบบุหรี่ที่ได้มาจากผู้กำกับการเพราะก่อนหน้านี้ชายคนนั้นเคยได้รับความช่วยเหลือจากเขามาก่อน

เขารู้ดีว่า

ตัวเองจบแล้ว

มีความเป็นไปได้มากมายที่ตระกูลของเขาเองก็จะต้องจบตามไปด้วย

เขาโทษว่าทำไมท่านชายถึงได้เลือกที่จะยืนข้างตระกูลถัง เขาเข้าใจถึงสถานการณ์ของตระกูลถังดี พวกเขาแถบจะไม่สามารถเรียกว่าเป็น 1 ใน 3 ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดได้อีกแล้ว

“ตอนนี้ตระกูลถังเองก็มีกองกำลังวางเอาไว้ในจังหวัดกวนหยาง สงสัยก็คงจะแทบไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยซ้ำ ? การที่จะมาช่วยเราก็คง….ยาก ”

ใบหยางเองก็ได้ถอนหายใจออกมา

“แกร๊งงง……..”

ขณะนี้เองที่ประตูเหล็กได้เปิดออกพร้อมกับเจียงหยางเหว่นได้เดินเข้ามาพร้อมกับตำรวจมากมาย

“ผู้กำกับการเจียง คุณมาทำอะไรงั้นหรอ ? ”

ใบหยางเองก็ได้ถามออกมา

เจียงหยางเหว่นเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เพื่อนหยาง ก่อนหน้านี้ฉันเพิ่งได้รับคำสั่งมาว่านายได้ถูกปล่อยตัวแล้วยิ่งไปกว่านั้นข้อหาทั้งหมดถูกยกเว้ย อ่อใช่ทางผู้ว่าเองก็ได้บอกมาว่านายควรจะรีบกลับบ้านไปนะ หลังจากที่กลับไปแล้วเขาก็เชิญให้นายไปทานข้าวด้วย ”

“คุณพูดว่าอะไรนะ ? ”

ใบหยางเองก็ได้แสดงใบหน้าที่ตกตะลึงออกมาพร้อมกับถามทันที

เจียงหยางเหว่นเองก็ได้พูดคำเมื่อครู่ซ้ำก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“เอาล่ะเพื่อนหยาง เราพบว่ามันมีคนใส่ความนายดังนั้นพวกเราเองก็ได้จับมันมาแล้ว พากมันเป็นคนจากตระกูลซันและไม่นานก็จะถูกนำมาขังที่นี่แทนนาย”

ใบหยางเองก็ได้กลืนน้ำลายกลับลงไปก่อนที่จะมองไปที่ตำรวจหลายนาย

เจียงหยางเหว่ยเองก็เข้าใจได้ถึงความหมายของใบหยางทันที เขาได้โบกมือให้กับตำรวจคนอื่นๆเพื่อให้พวกเขาออกไป หลังจากที่ในห้องเหลือกันอยู่แค่สองคนแล้วเขาก็ได้พูดว่า

“เพื่อนหยาง นายอยากจะรู้อะไรล่ะ ? ”

ใบหยางได้ถามออกมาว่า

“ผู้กำกับการหยาง นี่มันมีเหตุผลอะไรกัน ? ”

เจียงหยางเหว่ยได้ถอยหลังกลับไปหลายก้าวและดูว่าไม่มีใครอยู่ก่อนที่จะเดินมาข้างๆใบหยางแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบว่า

“ตอนนี้จังหวัดของเรามีเรื่องสำคัญเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ศูนย์ใหญ่ของสตาร์ไลท์กรุ๊ปของตระกูลถังโดนเผาไปใช่ไหม ? เมื่อวานนี้มีใครบางคนไปเผาบริษัทของตระกูลเหยาและตระกูลซันยิ่งไปกว่านั้นมีคนกว่า2-3ร้อยคนที่ถูกลอบสังหาร ”

“นี่มันยังไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ตระกูลซันนั้นน่าอนาถเป็นอย่างมาก เมื่อวานนี้มีใครบางคนได้ลอบเข้าไปในบ้านหลักพร้อมกับฆ่าแกนหลักของตระกูลไปแทบทั้งหมด นอกจากหัวหน้าตระกูลซันแล้วก็เหลือแค่แกนหลักที่ประจำอยู่ในจังหวัดอื่นเท่านั้น ”

ใบหยางเองก็ได้แสดงรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา

ความน่าอนาถของตระกูลซันและตระกูลเหยานั้นทำให้เขานึกถึงตระกูลถังทันที ถึงขั้นที่เขายืนยันได้เลยว่าคนที่ทำได้ขนาดนี้มีแค่ตระกูลถังเท่านั้น