Note

หมู่บ้านหินล้อม(หมู่บ้านที่ถังซิ่วพึ่งไปสำรวจมาตอนก่อนหน้านี้)

หลงเซ้งหยู(พี่ชายไอโล้น)

หลงเซ้งหลิน(ไอโล้น)

หยางเจียง (คนที่ได้คะแนนสอบเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนวิญญาณตัวเอกจะกลับคืนมา)

หยวนชูหลิง (ไออ้วนเพื่อนสนิท)

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

เพื่อเป็นการกระตุ้นนักเรียนมัธยมศึกษาที่สาม ผลการทดสอบรายเดือนของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของเมืองสตาร์ซิตี้จะถูกโพสต์ที่กระดานข่าวของโรงเรียน ซึ่งระบุคะแนน 500 อันดับแรกของผลการทดสอบรายเดือน ในขณะที่โรงเรียนยังให้รางวัลอย่างใจกว้าง เป็นเงินสดสำหรับผู้ทำคะแนนสูงสุด 100 คนแรก

รางวัลสำหรับผู้ทำคะแนนสูงสุดคือ 10,000 หยวนในขณะที่อันดับ 2 และ 3 จะได้รับ 6,000 หยวน 4-6 เป็น 3,000 หยวน 7-10 เป็น 1,000 หยวน 11 ถึง 50 เป็น 500 หยวนและครั้งที่ 51 ถึง 100 จะได้ 100 หยวน

หลังจากได้ยินเสียงระฆังเลิกเรียนดัง นักเรียนทุกคนไม่รีบวิ่งไปที่โรงอาหาร แต่ก็มารวมตัวกันที่หน้ากระดานของโรงเรียน

นักเรียนที่รวมตัวกันอยู่หน้ากระดานข่าวของโรงเรียนไม่ได้,uเฉพาะนักเรียนชั้นปีที่ 3 เท่านั้น แต่ยังเป็นนักเรียนปีที่สอที่ต้องการเห็นคะแนนของรุ่นพี่ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถทำความคุ้นเคยกับชื่อที่สดใสและแพรวพราวเหล่านั้นแต่ความสำเร็จเหล่านั้นก็กลายเป็นเป้าหมายและแรงจูงใจของสำหรับพวกเขา

“ว้าวนี่เป็นคะแนนสูงสุดของการทดสอบรายเดือนจริงๆ มีคะแนนถึง 712 คะแนน ดวงตาของฉันไม่ได้ฝาดใช่มั้ย?”

ผลการสอบของหยานเจียงดีขึ้นจริงๆ เขาเป็นคนที่สมควรค่าแก่การเป็นนักเรียนชั้นนำของโรงเรียน ถ้าเขาสามารถมีคะแนนระดับนี้ในการสอบเข้าวิทยาลัย เขาอาจได้รับอนุญาตให้เลือกมหาวิทยาลัยชิงฮ่วน หรือมหาวิทยาลัยชูมู่ ใช่หรือไม่ ”

“ไม่ใช่, แต่ว่าคะแนนด้านบนไม่ใช่หยานเจียง แต่เป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นเคย พูดถึงเรื่องนี้ … ใครรู้บ้างว่าถังซิ่วคือใคร? เขาเป็นใครเหรอ? ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขา แต่คะแนนของเขาสูงกว่าของหยานเจียงถึง 79 คะแนน! ”

…………………………….

คะแนนที่ดีที่สุดในรายชื่อนั้น เป็นที่สะดุดตามากที่สุดและเป็นจุดที่ทุกคนกังวลมากที่สุด

เมื่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียน พบว่าผลการทดสอบรายเดือนของหยานเจียงซึ่งเป็นผู้คะแนนสูงสุดเป็นเวลานานได้ถูกแทนที่โดยคนอื่นอย่างกะทันหัน ทุกคนก็คิดว่า ตาของพวกเขาต้องมีปัญหาแน่ๆ

การดีดตัวของคะแนนนั้นเป็นไปได้ แต่ว่า สำหรับการดีดตัวของคะแนนของคนที่ไม่เคยแม้แต่จะมีชื่ออยู่หนึ่งในสิบอันดับมาก่อนนี้ สร้างความประหลาดใจและความสงสัยให้คนเป็นจำนวนมาก

“ฉันรู้จักถังซิ่วนะ , เขามาจากห้อง 5 ของเรา เขาเป็นผู้ที่ทำคะแนนสูงสุดในการสอบเข้าโรงเรียนของเรา และเก่งในการสอบต่างๆและการแข่งขันอย่างยอดเยี่ยม เขานั้นเป็นที่หนึ่งในทุกวิชา

“เฮ้! ถังซิ่ว  นั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามาจากห้อง 10 นายไม่เห็นหรือว่าข้อความนี้เขียนว่าห้อง10 หนะ? เขาจะเกี่ยวข้องกับห้อง 5 ได้อย่างไร? ”

“สมองของถังซิ่วไม่ได้รับความเสียหาย? เขาจู่ๆ จะโผล่ออกมาทันทีทันใดนี้ได้อย่างไร? อาจเป็นไปได้ไหมที่ข่าวลือดังกล่าวไม่ถูกต้องและถังซิ่วนั้นทำตัวเหมือนหมูที่จะกินเสือ, ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและตั้งใจเปิดตัวในการทดสอบนี้ ? ”

นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องสถานการณ์ของถังซิ่ว, แต่บางส่วนของพวกเขานั้นรู้ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ห้อง 5 และห้อง10 เป็นคนที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับถังซิ่วดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อนักเรียนจากทั้ง 2 ชั้นเห็นว่าคะแนนของถังซิ่วนั้นมีคะแนนถึง 712 คะแนนจริงๆ นอกเหนือจากความประหลาดใจ พวกเขารู้สึกชื่นชมและรักเขา

“ไม่เป็นไปไม่ได้!ถังซิ่วไม่สามารถมีคะแนนสูงในการทดสอบได้ คะแนนของเขาเป็นเท็จอย่างสิ้นเชิง! ”

ตาของหยานเจียงเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะที่เขาจ้องที่ชื่อถังซิ่ว และคะแนนของเขาพร้อมก็ตะโกนอย่างฉับพลัน

“เฮ้ หยานเจียงยอมรับชะตากรรมของนายได้แล้วมั้ง ? หากลูกพี่โกงการทดสอบรายเดือนจริง เจ้าฮู นั้นต้องกระโดดออกมาเป็นคนแรกแล้ว แต่ฉันอยากจะบอกนายสิ่งหนึ่ง เช้านี้ ลูกพี่ถูกเรียกไปยังห้องประชุมเพื่อสอบใหม่ หลังจากการสอบครั้งนั้นผลลัพธ์ของเขาได้รับการยอมรับจากอาจารย์ใหญ่และครูทั้งหมด ดังนั้นคะแนนของเขาจึงเป็นความจริงและถูกต้อง ”

เมื่อคำพูดของหยานเจียงพึ่งจบลง ,เสียงหัวเราะก็ใกล้เข้ามา, มันคือหยวนชูหลิง ที่ยืนอยู่ข้างหลังหยานเจียง

ถังซิ่วไม่ปิดบังเรื่องที่เขาถูกเรียกตัวไปที่ห้องประชุมเพื่อสอบใหม่ เขาบอกกับหยวนชูหลิงและเฉิงเยี่ยนหนาน

ถึงแม้ว่าในขณะนั้นหยวนชูหลิงและเฉิงเยี่ยนหนานไม่เชื่อสิ่งที่ถังซิ่วพูดไว้ มากไปกว่านั้นคือเรื่องที่เขาจะได้คะแนนสูงถึง 712 คะแนน , แต่แล้วพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับความเป็นจริงนี้อย่างช้าๆ

ครูเกือบทุกคนที่สอนห้องสี่ให้การสรรเสริญถังซิ่วเป็นอย่างมาก ครูบางคนได้เชิญให้เขายืนบนแท่นโพเดียมเพื่ออธิบายคำถามการสอบวัดระดับรายเดือนในแต่ละข้อ

แม้ว่าผลการเรียนของนักเรียนห้องจะแย่กว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นเพราะพวกเขาไม่ให้ความสำคัญหรือไม่ใส่ใจมากนักในการศึกษาของพวกเขา แต่ก็เกิดจากปัญหาด้านไอคิวเท่านั้น

ถ้ามีครูเพียงคนเดียวที่แสดงความปรารถนาดีต่อถังซิ่วก็อาจจะถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุเท่านั้น

หากมีครู 2 คนที่แสดงความปรารถนาดีต่อถังซิ่วแล้วก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น

แต่เมื่อครูทุกคนดีต่อถังซิ่ว นั้นมีเพียงความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ผลงานทางด้านวิชาการของถังซิ่วทำให้ครูเหล่านี้รู้สึกประทับใจ ทำให้พวเขายอมรับถังซิ่วอย่างแท้จริงจากใจของพวกเขา

“หลังจากที่ความสามารถที่สูงเสียดฟ้าของลูกพี่ได้ลดลง นายคิดจริงๆหรือว่าความสามารถที่แท้จริงของเขาได้ลดลง? นายรู้อะไรไหม? เขาแค่รู้สึกเบื่อกับการสอบและการแข่งขันทั้งหมดและเลิกไป! จงใจซ่อนความสามารถที่แท้จริงของเขาด้วยการนิ่งเฉยต่อการสอบ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่า, แม้ว่าเขาจะให้ตำแหน่งที่หนึ่งแก่นาย แต่แกมันไม่รู้จักคำว่าขอบคุณ เอาแต่ดูถูกเขาจนมากเกินไป ดีจริงๆ ,ฉันเองก็อยากจะเห็นลูกพี่เริ่มแสดงความสามารถเช่นเดียวกับตอนนี้เหมือนกัน, แกจะเอาอะไรมาเปรียบเทียบกับลูกพี่ของฉัน? แกมันไม่มีอะไรดีด้วยซ้ำ! ”

“ทั้งแกหรือว่าเจ้าฮูนั้นมันโง่จริงๆ , ลูกพี่ที่ตั้งใจจะแสดงความสามารถที่แท้จริงของเขาในการสอบเข้ามหาลัย สุดท้ายแล้วพวกแกทั้งสองเป็นคนเริ่มที่จะก้าวร้าว ไม่เพียงแต่แกต้องการที่จะไล่ลูกพี่ออกจากห้อง 5 แต่ยังต้องการที่จะไล่เขาออกจากโรงเรียนดังนั้น ลูกพี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการแสดงความแข็งแกร่งของเขาจริงๆ ปล่อยให้สุนัขอย่างแกเปิดตาและเรียนรู้ที่จะระมัดระวังในภายหลังว่าแกจะต้องไม่มองคนอื่นด้วยจิตใจแคบๆ! ”

…………………………………………

เมื่อเห็นการแสดงออกที่โง่งม ของหยานเจียง หัวใจของหยวนชูหลิงรู้สึกยินดีอย่างมาก เขาไม่ได้รอหยานเจียงตอบและยิงคำด่าดั่งปืนกล เขายิงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเก็บฝังไว้ในใจเป็นเวลานานออกมาทั้งหมด

หันหน้าไปทางคำหยาบคายจากหยวนชูหลิง, หยานเจียงอยากตอบโต้เขาซักสองสามคำหรือแม้แต่ต้องการที่จะชกหน้าเขา

แต่หยานเจียงได้รับการรู้มานานแล้ว และรู้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะคำพูดของหยวนชูหลิงได้ด้วยผลลัพธ์ของการสอบได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

และถ้าพูดถึงเรื่องการชกต่อย, เขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีค่าพอจะเป็นเล็บขบของหยวนชูหลิงด้วยซ้ำ

“คนที่ได้อันดับที่หนึ่ง คือ ถังซิ่ว ไม่ใช่แก แกคิดว่าแกเป็นใครถึงได้มาทำอวดเก่ง ห๊ะ ? ”

หลังจากที่ได้กวาดตามองไปรอบๆและพบว่า ถังซิ่วนั้นไม่ได้อยู่ใกล้กระดานประกาศคะแนน เขารีบหันหลังกลับมาตะโกนใส่หยวนชูหลิง

“ฉัน … ถังซิ่ว นั้นเป็นลูกพี่ของฉัน ทำไมฉันจะไม่สามารถมีความสุขในนามของเขาได้ห๊ะ !”

ประโยคของหยานเจียงได้ทำให้หยวนชูหลิงสะอึกและไม่สามารถที่จะตอบได้ ในขณะที่เงาหลังของหยานเจียงกำลังหายไปในฝูงชน แล้วเขาก็สามารถที่จะเดินผ่านเสียงคำรามและฝ่าเสียงฝูงชนไป

ซูเชียงเฟยผู้ซึ่งอยู่ในฝูงชน สามารถได้ยินเสียงโต้ตอบระหว่าง หยวนชูหลิงกับหยานเจียง ได้อย่างชัดเจนพร้อมใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนไปอย่างไม่น่าดู

เมื่อเช้านี้ เมื่อประกาศผลรายชื่อยังไม่ได้เริ่ม ซูเชียงเฟยได้รู้แต่แรกแล้วว่าถังซิ่วนั้นได้รับคะแนนสูงสุดในการทดสอบรายเดือนนี้

เช้านี้สำหรับซูเชียงเฟย นั้นเป็นเพียงแค่การทรมานเขาเท่านั้น

เพราะคนที่อยู่เคยอยู่ข้างซูเชียงเฟย นั้นกำลังตีตัวออกห่างเขา และไปรวมกันอยู่กับถังซิ่วและหยวนชูหลิง

ครูที่มักชอบซูเชียงเฟยเป็นปกตินั้น ดูเหมือนตอนนี้จะได้ลืมการมีตัวตนของซูเชียงเฟยไปแล้ว พร้อมให้ความสนใจไปที่ถังซิ่ว

ถึงแม้ว่าถังซิ่วและหยวนชูหลิง จะไม่เคยเยาะเย้ยหรือล้อเลียนซูเชียงเฟย แต่ว่าดวงตาของนักเรียนคนอื่นนั้น ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายและไม่สบายใจ เขาไม่เคยรู้สึกว่าการนั่งในชั้นเรียนเป็นเรื่องที่น่าสังเวชเช่นนี้

วันนี้จะเป็นวันที่ถังซิ่วเปล่งแสง

วันนี้เป็นวันเดียวกันกับที่นักเรียนของโรงเรียนสตาร์ซิตี้จำนวนมากไม่สามารถลืมได้

“ฮ่า ๆ อย่างที่ฉันเคยพูดไว้ว่าลูกพี่ของฉันไม่ได้เป็นคนธรรมดา ลองดูสินายลองดูสิ ลูกน้องที่เป็นคนรวบรวมข้อมูลของนายด้อยกว่าของฉัน ”

ในรีสอร์ท ริมสระน้ำทางตะวันตกหลงเซ้งหลิน กำลังหัวเราะเสียงดังหลังจากได้รับข้อความแล้วส่งโทรศัพท์มือถือไปให้ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขา

“712 คะแนนและอันดับสูงสุดสำหรับการทดสอบรายเดือนที่โรงเรียนสตาร์ซิตี้ ? แต่สิ่งนี้จะอธิบายอะไรได้ ? อย่างมากก็สามารถอธิบายได้ว่าผลงานทางวิชาการของเขาเป็นที่โดดเด่น นายคิดว่าเด็กเรียนเหมือนเขาจะสามารถช่วยให้เราสามารถหยุดไอลูกคนรวยเหล่านั้นที่ต้องการคว้าหมู่บ้านหินล้อมนั้นได้หรือไม่ ”

หลงเซ้งหยู อ่านข้อความบนโทรศัพท์มือถือและพูดด้วยความไม่พอใจ

“พี่ พี่จะเชื่อผมซักครั้งได้ไหม ? ความสามารถในการสังเกตการณ์และการใช้เครื่องจักรของถังซิ่วนั้นมีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง อย่าพูดถึงไอพวกลูกคนรวยที่สามารถจะมองหมู่บ้านหินล้อมนั้นได้ด้วยโชคพวกนั้นได้เลย พี่สามารถหานักพนันจากคาสิโนอื่น ๆ ในเมืองสตาร์เพื่อช่วยพี่ได้ไหมหละ? ”

เมื่อเห็นว่าพี่ชายคนโตของเขาไม่สามารถชักชวนใครได้ หลงเซ้งหลินกังวลมาก

หลังจากที่ได้ยินว่าน้องชายแบบนั้นหลงเซ้งหยูก็ได้แต่เงียบเพียงเท่านั้น

ตระกูล หลง เริ่มต้นธุรกิจในการทำอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้รับความสนใจในธุรกิจนี้เป็นเวลา 50 ปีธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของตระกูลหลงได้ครอบครองทั้งจังหวัด ชวนฉิง

อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีซึ่งส่งผลต่อการลดผลกำไรของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ตระกูลหลงจึงเริ่มปฏิรูปตลาดแล้วจึงมุ่งขยายธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มไปสู่การท่องเที่ยว .หลังจากการสำรวจตลาดเสร็จสิ้นและการวิจัยและการศึกษาภาคสนาม ตระกูลหลง ได้กำหนดเป้าหมายสถานที่ห่างจากเมืองหลัก50 กิโลเมตร ที่เรียกว่าหมู่บ้านหินล้อม

อย่างไรก็ตามตระกูล หลง ไม่มีเวลามากพอที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนของพวกเขาที่หมู่บ้านหินล้อม ในขณะที่ข่าวก็มาถึงว่าจังหวัดชวงฉิงจะรวมพื้นที่ชนบทและเมืองโดยรอบและยังรวมถึงหมู่บ้านหินล้อมด้วย ซึ่งมีวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นกว่า 600 ปี และแนวธรรมชาติของจุดชมวิวที่มีชื่อเสียง

หลังจากข้อมูลนี้แพร่กระจายไปแล้วไอพวกลูกคนรวยในจังหวัด ชวนฉิง ผู้ซึ่งได้รับข่าว พวกเขาตอบการร่วงมือนี้อย่างรวดเร็วและรีบมุ่งไปที่หมู่บ้านหินล้อมเพราะต้องการมีส่วนแบ่งในที่นี้

พวกลูกคนรวยเหล่านี้ไม่มีความมั่นใจในการพัฒนาหมู่บ้านหินล้อม  อย่างไรก็ตามหลังจากที่พวกเขารู้ว่าตระกูลหลงได้จ้องพื้นที่นี้ ทำให้ความมั่นใจของพวกเขาเต็มเปี่ยม

เนื่องจากตระกูลหลง ได้ลงทุนในโครงการสร้างรายได้นี้ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ตระกูลหลงจึงรู้สึกว่าไม่ได้คาดการผิด ถึงขนาดที่ว่าพื้นที่พัฒนาการลงทุนนั้นเป็นของตระกูลหลงด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอิทธิพลที่ตระกูล หลง มีในจังหวัดชวนฉิง และตระกูลหลงเองก็เป็นคนเล็งหมู่บ้านหินล้อมนี้คนแรกทำให้เจ้าพวกลูกคนรวยพวกนั้นไม่กล้าที่จะแย่งหมู่บ้านหินล้อมไปจากตระกูลหลงด้วยกำลัง ,เพราะงั้นพวกมันถึงได้ร่วมมือกันกดดันตระกูล หลงและจบลงที่การพนัน ใครก็ตามที่ชนะพนัน ,จะได้สิทธิในการครอบครองและจัดการเกี่ยวกับหมู่บ้านหินล้อม

เกี่ยวกับการแข่งขันแย่ง หมูบ้านหินล้อม นี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นการทดสอบเพื่อส่งเสริมผู้สืบทอดจากรุ่นเยาว์ ดังนั้นผู้อาวุโสหลายคนไม่ได้เข้าไปยุ่งและปล่อยให้คนรุ่นที่สองเหล่านี้ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

หลงเซ้งหยูที่เป็นคนก้าวร้าวและมีความทะเยอทะยาน นี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องรับผิดชอบการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเขาจะจัดการกับคนอื่นๆ ที่จะร่วมมือกันแย่งโครงการนี้ไปจากเขา

เมื่อเผชิญหน้ากับเกมดังกล่าวที่ถูกจัดวางอย่างรอบคอบโดยคนเหล่านั้น หลงเซ้งหยูไม่คิดว่าตัวเองจะถูกบังคับให้เข้าสู่ทางตันเช่นนี้ ภายใต้ความสิ้นคิดและไม่มีทางเลือกใดๆ เขาจึงหันไปหาน้องที่ชั่วร้ายของเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ

ช่วงเวลาในอดีตที่ผ่านมาอยู่ใกล้กับน้องชายที่ชั่วร้ายของเขา ทำให้เขารู้ว่าน้องชายของเขาขาดความชัดเจน, แถมตอนนี้น้องเขายังแนะนำเด็กนักเรียนธรรมดาๆให้เขาอีก นี้ทำให้หลงเซ้งหยูรู้สึกไม่มั่นใจยิ่งกว่าเดิมเกี่ยวกับสิทธิในการครอบครองหมู่บ้านหินล้อมนั้นเอง