…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

โรงงานไหม , เมืองหลวง
ถังหยิงกำลังยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานพร้อมกับจ้องมองไปที่ภาพวาดทิวทัศน์ที่วางอยู่ตรงนั้นพร้อมกับแววตาที่ตกตะลึง ข้างๆเธอได้มีมู่หวางหยิงยืนอยู่พร้อมกับพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มว่า
“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้หวังอะไรไว้กับถังซิ่วมากนักหรอกแต่ที่ยอมให้เขาไปนั้นก็เพราะว่าฉันไม่อยากยอมรับข้อตกลงของอันธพาลคนนั้น ใครจะไปคิดกันล่ะว่าถังซิ่วจะน่าทึ่งขนาดนี้ ฉันได้เปลี่ยนจากความโชคร้ายมาเป็นโชคดีในพริบตาและได้ภาพที่สวยงามชิ้นนี้มาเป็นสิ่งที่ตอบแทน”
ถังหยิงเองก็ได้พูดชื่นชมออกมาด้วยความอิจฉาว่า
“ฉันเองก็ได้เคยเห็นภาพวาดระดับปรมาจารย์มาหลายชิ้นแล้วแม้แต่ภาพวาดโบราณเก่าแก่เองก็ยังไม่มีภาพไหนที่สามารถเทียบกับภาพนี้ได้แม้แต่น้อย หากว่ามีโอกาสฉันจะต้องให้เขาวาดให้บ้างแล้ว”
มู่หวางหยิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เขาได้บอกมาว่าจะไม่วาดภาพง่ายๆอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้นฉันรู้สึกได้ว่าถึงแม้เขาจะมีเทคนิควาดภาพระดับพระเจ้าแต่เขาก็ไม่ได้ต้องการเดินทางสายนี้”
ถังหยิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“เธอรู้จักกับเขาไม่ใช่หรอ ? เมื่อถึงเวลาแล้วเธอจะต้องช่วยฉันพูด!!”
มู่หวางหยิงเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“หากว่าฉันช่วยได้ก็คงจะดีน่ะสิ นิสัยของถังซิ่ว……..มันแปลกมากๆ”
“แปลกมากๆ ?”
ถังหยิงเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“มันแปลกอย่างไร ?”
มู่หวางหยิงได้ยกมือที่เรียวขาวของเธอขึ้นพร้อมกับเกี่ยวผมของเธอไว้ก่อนที่จะแสดงรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลออกมาแล้วถามว่า
“คิดว่าฉันสวยไหม ? ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นถังหยิงเองก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“สวยสิ สวนแน่นอนใครบ้างไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองหลวง มีหนุ่มๆคนไหนในเมืองนี้ที่ไม่อยากเข้าใกล้เธอบ้าง ? ฉันกล้ารับประกันได้เลยว่าผู้ชายทุกคนหากไม่ได้มีปัญหาเรื่องเพศก็จะต้องวิ่งเข้าหาเธออย่างแน่นอน”
มู่หวางหยิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“แต่ว่าถังซิ่วไม่คิดเช่นนั้น ”
“อะไรนะ ? ”
ถังหยิงเองก็ได้จ้องมองก่อนที่จะส่ายศีรษะแล้วพูดว่า
“ฉันไม่เชื่อ หากว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นถึงจะกล้าที่จะทำเป็นมองไม่เห็นเธอ ”
มู่หวางหยิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ฉันได้ลองทดสอบเขาดูแล้ว ความคิดของเขานั้นตรงไปตรงมาและเธอรู้ไหมว่าเขาตอบฉันกลับมาว่าอย่างไร ?”
ถังหยิงเองก็ได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“เขาตอบกลับมาว่าอย่างไร ? ”
มู่หวางหยิงเองก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ก่อนหน้านี้ฉันเองก็ได้ถามคำถามเดียวกับเธอออกมาว่า นายมีปัญหาทางเพศ ? นายไม่คิดว่าฉันน่าหลงใหล ?และสุดท้ายเขาก็ตอบว่าเขาปกติดีและหากว่าฉันยินยอมที่จะไปรอเขาอยู่บนเตียงเขาก็จะไม่ปฏิเสธอย่างไรก็ตามเขาขอแบบน้ำแตกแล้วแยกทางเพราะเขาไม่ต้องการสายสัมพันธ์ที่ผูกมัดยิ่งไปกว่านั้นคือมีผู้หญิงประเภทหนึ่งที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย”
ถังหยิงเองก็จ้องมองอย่างตาโตเหมือนกับเพิ่งได้ยินเรื่องตลกมากๆ อย่างไรก็ตามคำพูดของมู่หวางหยิงนั้นได้ดึงดูดเธอมากๆและทำให้เธอต้องการรู้ว่าผู้หญิงประเภทไหนที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยว
มู่หวางหยิงเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ผู้หญิงที่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวนั้นคือประเภทที่ยังซิงอยู่ เขาได้บอกมาว่าหากว่าได้ครั้งแรกของพวกเธอไปแล้วหลังจากนั้นมันจะสร้างปัญหามากๆ เขาไม่เคยกลัวอะไรนอกจากปัญหา”
“พุฟฟฟฟ……”
ถังหยิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างดังด้วยรอยยิ้ม
“เออ เขาก็แปลกคนดีนะ นี่น่าจะเป็นคำพูดที่ไม่น่าเชื่อที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาในชีวิตนี้ ! ชายยุคนี้คนไหนบ้างที่ไม่ต้องการผู้หญิงที่ยังซิง แต่เจ้านี่กลับกลัวที่จะแตะต้องผู้หญิงที่ยังซิงเพราะกลัวปัญหา นี่มัน……..ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี”
มู่หวางหยิงเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดออกมาอย่างช้าๆว่า
“ฉันรู้สึกได้ว่าเหตุผลที่เขาไม่อยากแตะต้องผู้หญิงที่ยังซิงก็เพราะเขาไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบ ”
ถังหยิงเองก็ได้พูดออกมาอย่างประหลาดใจว่า
“คนไม่มีความรับผิดชอบ ? ”
มู่หวางหยิงเองก็ได้พูดออกมาว่า
“ไม่ใช่ว่าไม่มีความรับผิดชอบแต่เพราะไม่อยากรับผิดชอบจึงไม่สนใจผู้หญิงซิง”
รอยยิ้มบนใบหน้าของถังหยิงได้หายไปเรื่อยๆก่อนที่จะคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยกนิ้วโป้งขึ้นมาชื่นชมว่า
“ฉันรู้สึกยอมรับในตัวเขาจริงๆและถึงขั้นที่บูชาเขาได้เลย อย่างแรกคือเขาสามารถทนการยั่วยวนของเธอได้โดยไม่ทำอะไรก็แสดงว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริงอย่างที่สองเพราะรู้ว่าจะไม่รับผิดชอบจึงไม่แตะต้องผู้หญิงที่ซิง ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ดีเลยล่ะ”
ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ได้มีท่าทางแปลกๆพร้อมกับยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของมู่หวางหยิงไว้แล้วพูดออกมาว่า
“ไม่เคยคิดเลยว่าหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงของเราจะตกหลุมรักเข้าให้แล้ว อย่าได้ปฏิเสธเชียวหละเพราะหากว่าเธอไม่ได้คิดอะไรแล้วจะทดสอบเขาทำไมกัน”
ใบหน้าที่งดงามของมู่หวางหยิงเองก็ได้แดงระเรื่อทันทีพร้อมกับจ้องมองไปที่ถังหยิงอย่างไม่วางตาแล้วพูดออกมาว่า
“อย่าพูดไร้สาระสิ ! ฉันแค่ทนไม่ได้……..กับการที่เขาไม่สนใจอะไรแล้วปล่อยให้ฉันเดินออกไปเฉยๆเท่านั้น เธอคิดว่า อ๊า ! ช่างมันเถอะ เขาคิดถึงเรื่องที่แม้กระทั่งเรื่องชายและหญิงที่อยู่ในห้องเดียวกันด้วยดังนั้นฉันแค่ต้องการทดสอบเขาเท่านั้น”
ถังหยิงเองก็ได้พูดออกมามา
“อย่าได้หาข้ออ้างเลย ฉันรู้จักเธอมาตั้งแต่ยังเล็กและมีชายกี่คนกันที่มาจีบเธอ ? บางคนก็ได้แต่เรื่องไร้สาระและเธอเองก็แทบจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ แต่เธอ เธอเป็นคนที่ไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อยแต่เจ้าถังซิ่วคนนี้กลับทำให้เธอสนใจได้”
มู่หวางหยิงเองก็ได้ตอบกลับไป
“ไม่ได้รู้สึกอะไรเสียหน่อย ฉันแค่สงสัยเท่านั้น อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้สึกอย่างนั้น ? ดูสิ เขามีความสามารถมากมายขนาดนั้นแต่กลับคำตัวไม่เตะตาเลยแม้แต่น้อย”
ถังหยิงเองก็ได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“หลังจากที่ฉันได้ยินมาจากปากเธอแล้วก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันแต่ก็ไม่เท่ากับเธอหรอก เธอกำลังถูกดึงดูดโดยเขา เธอไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่าเมื่อรู้หญิงเรื่องสงสัยในตัวผู้ชายแล้วก็แสดงว่ามันก็อีกไม่นานแล้วที่จะตกหลุมรักเขา”
“เธอ…..”
มู่หวางหยิงเองก็ได้เปิดปากออกมา
“ริ้งงงงงงง ริ้งงงงงง ริ้งงงงงงงง….”
เสียงเรียกข้าวของโทรศัพท์ถังหยิงที่วางอยู่ใกล้ๆก็ดังขึ้น
ถังหยิงได้มองไปที่มู่หวางหยิงด้วยสายตาหยอกล้อก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดปุ่มตอบรับ
“ลุงสี่ ลุงโทรหาหนูทำไมหรอคะ ? ”
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งรอยยิ้มของเธอก็ได้หายไปพร้อมกับดวงตากลมโตที่ได้เบิกกว้างขึ้นด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เธอได้โห่ร้องออกมาว่า
“ลุงหมายความว่า……….เจอลูกชายของลุงสองแล้ว ? กำลังกลับมาที่เมืองนี้พร้อมกับคุณปู่ ? ดี ดี ดี หนูจะรีบกลับไปทันที”
เมื่อวางสายเสร็จแล้วถังหยิงก็ได้รีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าทันทีพร้อมกับมองไปที่มู่หวางหยิงแล้วพูดว่า
“หวางหยิง ที่ตระกูลของฉันได้มีเรื่องใหญ่ที่ต้องจัดการและต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ เมื่อฉันเสร็จแล้วจะรีบติดต่อกลับไปหานะ ”
มู่หวางหยิงเองก็ได้ขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสงสัยว่า
“พี่หยิง หากว่าฉันจำไม่ผิดลุงสองของเธอนั้นเป็นเจ้าชายนิทราไป20ปีไม่ใช่หรอ ? ลูกแท้ๆของเขา ………”
ถังหยิงเองก็เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้นในดวงตาของเธอพร้อมกับพูดออกมาว่า
“ใช่แล้วก่อนหน้าที่ลุงสองของฉันจะเป็นเจ้าชายนิทราไปนั้นได้มีลูกกับผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อ20ปีที่แล้วตระกูลของฉันได้ส่งกำลังคนมากมายไปที่เมืองสตาร์ซิตี้เพื่อหาพวกเขาแต่น่าเสียดายที่ต้องผิดหวัง ไม่คิดเลยว่าจะเจอกับพวกเขาแล้ว ถ้าคุณย่ารู้ก็จะต้องดีใจมากๆอย่างแน่นอน ”
มู่หวางหยิงเองก็ได้พูดออกมาทันทีว่า
“เอาล่ะ เธอรีบไปเถอะ ! ก่อนที่จะถึงวันเปิดเรียนของมหาวิทยาลัยฉันก็จะยังอยู่ที่นี่ ถ้าเธอว่างก็มาแล้วกัน”
“ได้เลย !”
ทุกๆคนที่มีความเกี่ยวของกับตระกูลนั้นได้รับสายจากถังหยุนชิงแล้ว พวกเขาได้เดินทางมาที่บ้านหลักทันที
บ้านหลักตระกูลถัง
ที่ลานกว้างตรงกลางบ้าน
หญิงชราที่กำลังถือไม้เท้าพร้อมผมหงอกกำลังกอดแมวเปอร์เซียไว้ โต๊ะหินตรงหน้าของเธอนั้นได้ถูกวางถ้วยชาเอาไว้
เธอเป็นภรรยาของถังเกาเชิงชื่อว่าชินฉางเย่
“คุณแม่ ทำไมถึงมานั่งอยู่นี่ ?”
ภรรยาของถังหยุนเป็ง ไซฉีหลูกำลังถือถุงกับข้าวมาพร้อมกับแม่บ้านที่กำลังเดินตามมาที่ลานกว้าง
ชินฉางเย่เองก็ได้เปิดตาขึ้นมาและเห็นว่าเป็นไซฉีหลูจึงได้โบกมือด้วยรอยยิ้มแล้วพูดออกมาตรงๆว่า
“ไม่เป็นไรหรอกอากาศตอนนี้กำลังอบอุ่นเลยมานั่งดื่มชาที่นี่พร้อมกับฟังวิทยุแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรตอนนี้ถึงได้พังไปอีกแล้วเลยเกือบจะหลับแล้วล่ะ”
ไซฉีหลูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณแม่ หนูอยากจะทิ้งวิทยุเก่าๆนั่นไปนานแล้ว ช่างมันเถอะ หนูจะซื้ออันใหม่มาให้”
ชินฉางเย่เองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ทำอย่างงั้นไม่ได้ นี่เป็นของรักของหวงของพ่อตาเธอเลยนะแม้ว่ามันจะผ่านมานานแล้วแต่ก็ยังซ่อมได้ ”
ไซฉีหลูเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เอาล่ะ แม่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือยัง ? วันนี้เป็นวันสำคัญของตระกูลเราเลยระ หนูเองก็ได้ไปซื้อผักปลาและเนื้อสดมามากมายกับพี่หวาง บอกได้เลยว่ามันจะต้องอร่อยมากอย่างแน่นอน”
ชินฉางเย่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นหรอ ? มันสำคัญมากถึงขั้นที่ต้องทำอาหารมากมายขนาดนั้นเลยหรอ ? ”
“คุณย่าไม่รู้เรื่องนี้หรอคะ?”
ถังเหว่ยที่ได้พุ่งเข้ามาจากทางหน้าประตูนั้นก็ได้ถามออกมาอย่างดัง
ชินฉางเย่เองก็ได้มองไปที่ถังเหว่ยและถังถังด้วยสายตาที่สับสนก่อนที่จะถามออกมาว่า
“รู้อะไรงั้นหรอ ? ”
ถังเหว่ยเองก็ได้พูดออกมาว่า
“คุณปู่ได้พบหลานรักที่ยังไม่ได้เจอหน้ากว่า20ปีของยายแล้วและกำลังนำตัวเขากลับมา ! อ่อใช่ เขาชื่ออะไรนะ ? ถัง……ถังซิ่ว ! ใช่แล้วชื่อนี้แหละ”
ชินฉางเย่เองก็ได้จ้องมองอยู่ก่อนที่ท่าทางของเธอจะเปลี่ยนไปทันที แม้ว่าเธอจะแก่แล้วแต่ก็ลุกจึ้นยืนอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามออกมาว่า
“พูดว่าอะไรนะ ? หยุนดี่…..ลูกชายของหยุนดี่? หลานชายของย่า ? เจอแล้ว ? ”
ถังถังที่อยู่ข้างๆเองก็ได้เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพยุงแขนของเธอไว้ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เจอแล้วค่ะคุณย่า หนูได้รับสายมาจากคุณพ่อเพื่อให้ไปตามพี่ชายมา ”
ความตื่นเต้นได้ปรากฏไปทั่วใบหน้าของชินฉางเย่ ร่างกายของเธอสั่นไปมาก่อนที่จะเห็นว่าลูกชายคนโตของเธอ ถังหยุนเป็งได้เดินเข้ามาพร้อมกับถังหนิงซึ่งเป็นหลานชายของเธอ
“หยุนเป็ง ลูกเองก็รู้เรื่องนี้ ? ”
ถังหยุนเป็งเองก็ได้พยักหน้าพร้อมพูดว่า
“คุณแม่ ดูเหมือนว่าพวกเด็กๆจะบอกแม่ไปแล้วสินะ ตอนที่ผมไปที่เมืองสตาร์ซิตี้กับพ่อนั้นก็ได้รู้ว่าคนที่รักษาเขานั้นคือหลานชายแท้ๆของแม่ ถังซิ่ว ผมได้รับสายจากพ่อและถังหมินว่าถังซิ่วและแม่ของของซูหลิงหยุนกำลังเดินทางมาที่นี่ยิ่งไปกว่านั้นผมเองก็ได้ส่งคนไปดูน้องสองแล้ว”
น้ำตาได้ไหลออกมาจากดวงตาของชินฉางเย่พร้อมกับริมฝีปากที่กำลังสั่นเทา เธอได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“ดี ดี ดี เจอเขาก็ดีแล้ว ดีจริงๆเลย !”

หลังจากนั้นผู้คนตระกูลถังเองก็ได้รีบตามกันเข้ามา