…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

หลี่ฮงจี้เองก็ได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ถังซิ่ว อย่าเพิ่งไปได้ไหมรอเวลาอีกสักสองวัน มีผู้ป่วยบางคนที่น่าสงสารมากและพวกเขาได้เดินทางมาที่นี่จากที่แสนไกล มันจะต้องน่าผิดหวังสำหรับพวกเขามากๆอย่างแน่นอนหากว่าไม่สามารถพบกับเธอได้ เธอวางใจได้เลยว่าหลังจากผ่านสองวันนี้ไปฉันจะประกาศว่าเธอติดธุระบางอย่างและจะไม่กลับมาที่นี่ในระยะนี้เอง ”

ถังซิ่วเองก็ได้เงียบไปครู่หน่อยก่อนที่จะพูดว่า

“เอางั้นก็ได้ พรุ่งนี้ผมยังเรื่องที่ต้องจัดการหลังจากทำเสร็จแล้วจะกลับมาตรวจที่นี่อีกแค่สองวันเท่านั้น ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“เอาล่ะ ฉันจะรีบไปแจ้งให้คนอื่นทราบโดยทันที ”

“ก๊อก ก๊อก …….”

ห้องผู้ป่วยได้ถูกเคาะ

ชายที่เดินเข้ามานั้นได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความประหลาดใจเพราะเขาคือนายใหญ่ของวิลล่าช่องแคบที่เกาะจิงเหมิน ถังดงนั่นเอง

ใบหน้าของชายชราที่นอนอยู่บนเตียงนั้นได้กลายเป็นดำคล้ำก่อนที่เขาจะถามออกมาว่า

“เธอมาที่นี่ได้ไง ? ”

ถังดงที่มองถังซิ่วอยู่นั้นก็ได้พยักหน้าให้กับเขาก่อนที่จะหันไปมองที่ชายชราพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า

“คุณลุง คุณพ่อได้ยินมาว่าลุงมารักษาอาการป่วยที่นี่จึงได้ให้ผมมาดูยิ่งไปกว่านั้นผมเองก็ได้มีคนรู้จักอยู่ในเมืองนี้และกำลังเอาสินค้ามาส่งให้กับเขาเพื่อทำธุรกิจกัน ”

ชายชราเองก็ได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะพูดว่า

“ฮึ้ม มันถือเป็นเรื่องหายากเลยนะที่พ่อของเธอจะสนว่าฉันเป็นหรือตาย เอาล่ะในเมื่อมาถึงและได้เห็นแล้วงั้นก็กลับไปธุรกิจของเธอได้แล้ว ”

ถังดงเองก็ได้พูดออกมาอย่างขมขื่นว่า

“คุณลุง ถึงแม้ว่าผมจะต้องไปทำธุรกิจก็ตามแต่ผมก็ต้องมาหาคนรู้จักของผม หากว่าผมไปจากที่นี่ก็คงจะไม่สามารถทำธุรกิจได้ ”

ชายชราเองก็ได้โกรธจัดพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“แล้วเรื่องธุรกิจจะมาเกี่ยวอะไรกับที่นี่ ? เธอเป็นนายใหญ่แล้วนะ เธอไม่ใช่เด็กๆแล้วทำไมถึงได้ไม่เอาจริงเอาจังแบบนี้ จะบอกว่าคนรู้จักของเธออยู่ที่นี่หรือไง ? ฮึ้ม…..”

ถังดงเองก็ได้ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

“คุณลุง คนที่ผมจำเป็นต้องเจอเขาได้อยู่ที่นี่”

ชายชราเองก็ได้โกรธจัดเป็นอย่างมาก

ณ ตอนนี้ถังซิ่วเองก็ได้แสดงรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ถังดง ครั้งนี้คุณนำสินค้ามามากแค่ไหนกัน ? ”

ถังดงเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ห้าชิ้น”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะถามต่อว่า

“อยู่ที่ไหน ?”

ถังดงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ฉันได้ส่งไปที่ที่เราได้ทำการตกลงกันครั้งก่อน ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าจะมาเยี่ยมลุงก่อนแล้วโทรหาคุณแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ เป็นอะไรไป ? มีเพื่อนหรือญาติพักอยู่ที่โรงพยาบาลนี้งั้นหรอ ?”

ถังซิ่วเองก็ได้ชี้ไปยังชาวบ้านที่นอนอยู่บนเตียงแล้วพูดว่า

“ใช่แล้ว พวกเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจึงได้มาเยี่ยมพวกเขาไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสคนนี้จะเป็นลุงของคุณ ผู้อำนวยการหลี่ดูเหมือนว่าแม้ผมจะไม่ต้องเอ่ยปากทางโรงพยาบาลก็คงจะไม่เก็บค่ารักษาพวกเขาใช่ไหม ? ”

หลี่ฮงจี้เองก็ได้พูดออกมาอย่างอับอายว่า

“แน่นอน แน่นอนอยู่แล้ว !”

ชายชราที่นอนอยู่บนเตียงเองก็ได้รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขาทันที เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลานชายแท้ๆของเขาจะรู้จักกับถังซิ่วแถมยังทำธุรกิจร่วมกันอีกจึงได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า

“ถังดง เธอกับหมอเทวดาถังทำธุรกิจอะไรกันงั้นหรอ ? ”

หมอเทวดาถัง ?

ถังดงเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วด้วยความประหลาดใจก่อนที่จะพูดออกมาตรงๆว่า

“คุณลุง คุณน่าจะรู้เรื่องการล่าของตระกูลเราดี ! ซากศพของสัตว์พวกนั้นและสิ่งอื่นๆที่ไม่สามารถใช้ได้จะถูกขายให้กับเขาในราคาที่สูงมาก ก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้ขายให้เอาไป4ชิ้นแล้วและตอนนี้ผมก็ได้นำมาอีก5ชิ้น”

ชายชราเองก็ได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“คุณหมอเทวดาถัง คุณทำอะไรงั้นหรอ ? นอกจากเป็นหมอที่นี่แล้วเป็นนักศึกษา แล้วไปเริ่มทำธุรกิจได้ไงกัน ? ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ทำธุรกิจเล็กๆเพื่อหาเงินดูแลครอบครัว สถานะที่โดดเด่นของคุณคงไม่รู้หรอกว่าคนธรรมดาจะต้องไขว่คว้าอย่างยากเย็นแค่ไหน”

ชายชราเองก็หมดคำพูดทันที

เขามีสกุลว่าถัง ชื่อว่าถังเกาเชิง

ข้างๆเขานั้นคือลูกๆที่ชื่อว่า ถังหยุนเป็งและถังเซี่ย

ณ ตอนนี้

ถังหยุนเป็งได้ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“คุณหมอเทวดา แม้ว่าพ่อของผมจะเป็นชนชั้นสูงแต่ก็รู้จักความยกลำบากอย่างแน่นอน ! หากว่าไม่รู้จักพ่อผมจริงๆก็อย่าได้พูดไร้สาระ ”

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่เขาด้วยสายตาเย็นชาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

ถังเกาเชิงเองก็ได้ตะโกนดุออกมาว่า

“หยุนเป็ง หยุดเดี๋ยวนี้ ! อย่าพูดไร้สาระ !”

ขณะที่ปากเขากำลังดุด่าอยู่นั้นแต่ในใจเองก็กำลังรู้สึกประหลาดเป็นอย่างมากเพราะเขารู้ว่าถังซิ่วสามารถรู้ถึงสถานะของเขาแน่ๆแต่กลับไม่ได้มีความกลัวอยู่แม้แต่น้อย หากว่าคนธรรมดารู้ถึงสถานะของเขาก็จะต้องตกตะลึงและเคารพเขาอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างเช่นผู้อำนวยการโรงพยาลบาลจีนหลี่ฮงจี้คนนี้

ถังหยุนเป็นที่เพิ่งจะโดนด่าไปนั้นก็ได้แต่ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เขาต้องการที่จะสั่งสอนถังซิ่วแต่ติดที่ว่าเขามีสถานะเป็นหมอเทวดาและพ่อของเขาต้องการความช่วยเหลือเพราะฉะนั้นเขาก็ทำได้แค่อดกลั้นเท่านั้น

ถังเกาเชิงเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

“หมอเทวดาถัง ดันทำให้คุณได้เห็นเรื่องน่าตลกซะได้ ลูกที่ไม่มีอะไรดีของฉันมักจะชอบพูดไร้สาระเสมออย่างได้ไปสนใจเขาเลย ฉันแค่คิดว่าคุณนั้นยังเป็นเด็กแท้ๆแต่กลับมีความสามารถมากขนาดนี้ ”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ไม่เป็นไร ”

ถังดงที่เห็นว่าถังซิ่วยังอารมณ์ปกติอยู่นั้นจึงได้พูดออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“ถังซิ่ว ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเป็นหมอเทวดาไม่เช่นนั้นก็คงจะให้มารักษาคุณลุงนานแล้ว”

ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า

“รักษาตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป ! แม้ว่าเขาจะได้รับผลกระทบนิดหน่อยแต่การที่จะมีชีวิตอยู่อีกสัก10ปีนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา ! เมื่อฉันรักษาโรคหอบหืดให้เขาแล้วอย่างน้อยเขาก็ยังใช้ชีวิตได้อีกหลายปี”

“ดี!!”

ถังดงเองก็ได้ตอบกลับไป

ทันใดนั้นท่าทางของถังดงก็ได้เปลียนไปก่อนที่จะถามออกมาว่า

“ถังซิ่ว ในเชื่อคุณได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดาที่ลุงของฉันต้องบึ่งมาไกลกว่าหลายพันเมตร คุณ……คุณสามารถรักษาพี่ชายสามของฉันได้ไหม ? หากว่าคุณสามารถรักษาเขาได้ฉันจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆจากกระดูกพวกนั้นอีกตลอดไป”

ถังเกาเชิงและคนอื่นๆเองก็ได้รู้สึกเหมือนโดนกระแทกโดยอะไรบางอย่าง พวกเขาได้มองไปที่ถังซิ่วทันที

ให้ฟรี ?

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่ถังดงเพราะต้องรู้ก่อนว่าราคาอย่างต่ำก็5ล้านแล้วและหลังจากนี้ยังให้ฟรีงั้นหรอ ? นี่มันเป็นอะไรที่เกินไปหน่อยไหม ?

“เขาป่วยเป็นอะไรงั้นหรอ ? ”

ถังดงเองก็ได้พูดออกมาว่า

“ปัญหาทางสมองและหมดสติไปถึง19ปี หมอที่เก่งที่สุดเองก็ได้บอกมาว่าเขาจะน้องเป็นเจ้าชายนิทรา”

ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หากว่ามีเวลาว่างแล้วฉันจะลองดูแต่ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่างดังนั้นคงไปไม่ได้”

ถังเกาเชิงเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า

“คุณหมอเทวดาถัง คุณ………คุณรักษาคนที่เป็นเจ้าชายนิทราได้งั้นหรอ ? ”

ถังซ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า

“รักษาได้ไหมเดี๋ยวลองดูแล้วก็รู้เอง เขาสามารถเป็นเจ้าชายนิทรามาได้ถึง19ปีก็แสดงว่าความสามารถของคุณต้องไม่ใช่น้อยๆเลยใช่ไหม ? ”

ถังเกาเชิงเองก็ได้รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันทีก่อนที่จำกำมือเหี่ยวๆของเขาเอาไว้แล้วเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า

“ลูกชายคนสุดท้องของฉันนั้นเป็นเจ้าชายนิทราไปตั้งแต่ตอนอายุ25ปี เขาได้รับบาดเจ็บที่เมืองแห่งนี้”

เมืองสตาร์ซิตี ?

ถังซิ่วเองก็ได้จ้องมองก่อนที่หัวใจของเขาจะรู้สึกบีบแน่นขึ้น

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งถังซิ่วก็ได้ถามออกมาว่า

“ลูกชายคนสุดท้องของคุณชื่อว่าอะไร ? ”

“ถังหยุนดี่!”

ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงลึก

“คุณพูดว่าอะไรนะ ? ”

ท่าทางของถังซิ่วเองก็เปลี่ยนไปพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อก็ได้ถูกจุดประกายขึ้น

ถังหยุนดี่ ?

เขารู้สึกว่าชื่อนี้มันฟังดูคุ้นๆ เขาได้จดจำมันไว้กว่า20ปีและเป็น20ปีที่เขาเกลียดชังเจ้าของชื่อนี้

ถังเกาเชิงเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หมอเทวดาถัง คุณ……..”

ถังซิ่วเองก็ได้มองไปที่ถังเกาเชิงก่อนที่แววตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกแล้วถามออกมาทีละคำว่า

“ถังหยุนดี่ ? 19ปีที่แล้วได้อยู่ที่นี่ ? ตอนนั้นอายุ 25 ? เป็นคนจากเมืองหลวง ? เคยเป็นทหาร ? ”

ถังเกาเชิงเองก็ได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า

“เธอรู้ได้อย่างไร ?”

ท่าทางของถังซิ่วกลายเป็นน่าเกลียดกว่าเดิน เขาหันหน้าไปมองที่หลี่ฮงจี้ทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งว่า

“ให้พวกเขาออกไปซะ ออกไปจากโรงพยาบาลนี้ซะ ! เขาตายฉันก็จะไม่รักษาเขา”

“อะไรนะ ? ”

หลี่ฮงจี้เองก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขามองไปที่ถังซิ่วที่กำลังแสดงความโกรธออกมา

ถังซิ่วได้มองไปถังเกาเชิง ถังหยุนเป็ง ถังเซี่ยและถังดงด้วยแววตาเหมือนหมาป่าที่กระหายเลือดพร้อมกับหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที เขาได้เดินไปที่บันใดพร้อมกับหยุดฝีเท้าลงแล้วพิงกำแพงก่อนที่จะหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง

ถังหยุนดี่ !

เขาเกลียดเจ้าของชื่อนี้อย่างมาก เขาคิดว่าเมื่อโตขึ้นแล้วเขาจะไม่รู้สึกอะไรเพราะพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์กันแต่เมื่อได้ยินชื่อของพ่อเขาและเหล่าพี่น้องแล้วก็ทำให้ความเกลียดชังกว่าหลายปีนั้นได้ปะทุออกมาทันที

ที่เขาเกลียดนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองแต่เป็นเพราะเหตุผลที่ทิ้งแม่ของเขาให้เลี้ยงดูเขาคนเดียว

มือที่สั่นเทาของถังซิ่วได้พยายามหยิบบุหรี่ออกมา หลังจากที่สูบไปสองสามครั้งแล้วความโกรธของเขาก็เริ่มทุเลาลง

ในห้องผู้ป่วย

ผู้คนตระกูลถังเองก็ได้ตกตะลึงกับการแสดงออกของถังซิ่วเมื่อครู่ ทำไมเขาถึงได้แสดงท่าทางเกลียดชังออกมาอย่างฉับพลัน ? ท่าทางก่อนหน้านี้ของเขาแสดงให้เห็นเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคู่แค้นซึ่งความเกลียดชังนั้นได้สลักอยู่ในกระดูกและฝังลึกอยู่ในหัวใจของเขา

เกิดอะไรขึ้น ?

ริมฝีปากของถังเกาเชิงเองก็ได้เหี่ยวย่นก่อนที่จะมองไปที่ประตู ทันใดนั้นเขาก็นึกเรื่องบางอย่างได้ทันทีพร้อมกับนัยน์ตาที่เบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาได้ตะโกนออกมาอย่างดังว่า

“รีบตามเขาไป ไปพาเขามานี่ !”

ถังหยุนเป็งที่กำลังทำท่าทางเคร่งเครียดอยู่นั้นก็ได้ถามออกมาด้วยความสับสนทันทีว่า

“คุณพ่อ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ? ”

ถังเกาเชิงนั้นเหมือนว่าไม่ได้ยินสิ่งที่ลูกของเขาพูดแม้แต่น้อย ในห้วงความคิดของเขาตอนนี้นั้นได้นึกถึงคำพูดสุดท้ายก่อนที่ลูกชายจะเป็นเจ้าชายนิทราไป

“คุณพ่อ ! พ่อจะได้เป็นปู่คนแล้ว หยุนน้อยได้ตั้งท้องมาสามเดือนแล้ว……”

อย่าบอกนะว่า……..

ร่างกายที่แก่ชราของเขานั้นสั่นสะท้าน เขารู้ว่าตัวเองมีหลานชายที่ไม่เคยเห็นหน้า 19ปีที่แล้วเขาได้ใช้กำลังและเส้นสายทั้งหมดเพื่อหาตัวหลานชายและลูกสะใภ้ที่เขายังไม่ได้เห็นแม้แต่งานแต่งด้วยซ้ำ

แต่เขารู้แค่ว่าลูกสะใภ้ของเขามีชื่อว่าหยุนน้อยเท่านั้นและไม่มีข้อมูลอย่างอื่นอีกเลย ดังนั้นจึงทำให้เขาไม่สามารถหาพวกเขาพบ เขาได้แต่หวังว่าซักวันหนึ่งลูกชายของเขาจะฟื้นขึ้นมาและรู้เรื่องของลูกสะใภ้และหลานชายของเขา

น่าเสียดายที่เขาต้องผิดหวัง