…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
จิตสังหารได้พวยพุ่งไปทั่วพื้นที่ภายใต้แสงของหมู่ดาวที่ดูสงบนี้ มันพัดผ่านเบาๆพร้อมกับกลิ่นเลือดในสายลม
หลังเถาและลูกน้องอีก11คนได้แบ่งออกเป็น3กลุ่มซึ่งมุ่งหน้าไปทางโรงงานที่ถูกทิ้งร้าง ปากของพวกเขากำลังคาบมีดกองทัพเอาไว้เหมือนกับฝูงหมาป่าที่กำลังซุ่มอยู่ในพุ่มหญ้า พวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงตัวตนของถังซิ่วและอีกสองคนที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆ
“ทิศ8นาฬิกามียามอยู่2คน 12เมตรห่างจากนั้นก็มีรูอยู่ที่กำแพงยังมีคนแอบอยู่ด้านหลังนั้นอีก พวกนายสองกลุ่มเข้าไปจัดการซะ ”
หลันเถาเองก็ได้ออกคำสั่งอยู่ในพงหญ้าที่เขากำลังส่องกล้องส่องทางไกล
“รับทราบ !”
เสียงของคนทั้งสองกลุ่มเองก็ได้ตอบรับกลับมา
ทันใดนั้นทหารทั้งสี่คนก็ได้แอบลอบเข้าไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับแมวดาว พวกเขาใช้เวลาเพียง30วินาทีก็ไปอยู่ข้างๆของยามพวกนั้นพร้อมกับปากที่กำลังคาบมีดกองทัพเอาไว้ พวกเขาแอบอ้อมเข้าไปทางด้านหลังของยาม
จึ้ก
มีดได้แทงทะลุลำคอชายคนนั้นก่อนที่จะมีมือมาปิดปากของเขาเอาไว้พร้อมกับดึงมีดออกมาแล้วแทงซ้ำไปที่หัวใจของเขา คนของกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายเองก็พยายามขัดขืนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตายไป
“รอยสักรูปเคียว ?”
ทหารคนนั้นเองก็ได้ดึงคอเสื้อของยามขึ้นมาก่อนที่จะพบรอยสักนั้นพร้อมกับยืนยันสถานะของอีกฝ่าย
ขณะนี้เองทหารอีกสามคนเองก็ได้โจมตียามที่เหลือด้วยความรวดเร็ว มันผ่านไปเพียง2ลมหายใจเท่านั้นยามทั้งหมดก็ถูกฆ่าตาย
“หลันเถา เรายืนยันได้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนของกองกำลังเคียวเทพแห่งความตาย”
เสียงได้ถูกส่งผ่านมาทางหูฟังไร้สายของเขาซึ่งทำให้จิตสังหารของเขาเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
หลันเถาที่กำลังถือกล้องส่องทางไกลอยู่นั้นก็ได้ออกคำสั่งต่อไปว่า
“ดูสถานการณ์รอบข้างและฆ่าศัตรูทุกคนที่อยู่ในพื้นที่”
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที จุดทั้ง6จุดก็ได้ถูกครอบครองทั้งหมดพร้อมกับปืนไรเฟิลสองกระบอกกับปืนกลสี่กระบอก พวกเขาค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในโรงงานแห่งนี้ ณ ตอนนี้เองที่โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็สั่น หลันเถาเองก็ได้ไปแอบก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาดูก่อนที่คิ้วของเขาจะขมวดเข้าหากัน
มันเป็นข้อความโทรศัพท์ซึ่งมีใจความว่า ‘คนที่ติดตามอยู่ด้านหลังอีกสองคนนั้นเป็นพวกเดียวกัน พวกเขาจะช่วยนายจู่โจม’
หลันเถาเองก็ได้หันหลังกลับไปและเตรียมที่จะมองด้วยกล้องส่องทางไกลแต่ก็ได้มีร่างสองร่างปรากฏขึ้นใกล้ๆกับตัวเขา
“อย่าขยับ พวกเดียวกัน !”
ท่าทางของหลันเถาเปลี่ยนไปก่อนที่จะตะโกนออกมาเบาๆผ่านทางหูฟังไร้สาย
ด้านหลังผนังเขานั้นได้มีชายรูปร่างกำยำสองคนซึ่งทำให้หลันเถาถึงกับตกตะลึงต้องรู้ก่อนว่าเขาตื่นตัวและระมัดระวังอยู่ตลอดไม่ว่าตะเป็นข้างหน้าหรือข้างๆเขาก็สังเกตอยู่ตลอดแต่ไม่คิดเลยว่าจะผู้คนที่อยู่ดีๆก็สามารถปรากฏมาข้างๆเขาได้
ผู้เชี่ยวชาญ !
แข็งแกร่งกว่าเขาอย่างแน่นอน !
“ชื่ออะไร ? ”
หลันเถาเองก็ได้ลดความกังวลในหัวใจก่อนที่จะถามออกมาด้วยเสียงกระซิบ
“ชาหยู! ”
“คงหลินหลาง !”
ชายทั้งสองเองก็ได้บอกชื่อเล่นในสมัยที่พวกเขายังอยู่ในสนามรบออกไป
หลันเถาเองก็จ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่าทำไมชื่อพวกนี้มันฟังดูคุ้นๆแปลกๆ
ทันใดนั้นท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปและลมหายใจเองก็ถี่ขึ้นเรื่อยๆก่อนที่เขาจะถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ชาหยูจากกองกำลังนานาชาติ ? คนที่ฆ่าหัวหน้ากองโจรในแอฟริกาซึ่งฆ่าคนไปกว่าร้อย ? คนที่หนีไปได้ ? คงหลินหลางของกลุ่มเทพนักฆ่า ? ”
ชาหยูและคงหลินหลางเองก็ได้มองไปที่กันและกันด้วยความประหลาดใจ
“นายรู้จักพวกเราด้วยงั้นหรอ ?”
ชาหยูเองก็ได้ถามออกมาด้วยเสียงกระซิบ
หลันเถาเองก็ได้มองไปที่พวกเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่คิดเลยว่าจะเป็นพวกเขาจริงๆเพราะต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาเป็นตัวเป้งจากนานาชาติ แต่ละคนเองก็สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมากมาย นี่พวกเขาเป็นลูกน้องของถังซิ่ว ?
อย่าบอกนะว่าพวกเขาเป็นลูกน้องของถังซิ่วอยู่ก่อนแล้วและเรื่องที่พวกเขาทำมาเป็นคำสั่งของถังซิ่ว ?
หลังจากนั้นหลันเถาเองก็ได้มีความสงสัยเกี่ยวกับสถานะของถังซิ่วมากขึ้น
ฟิ้ว
เงาหนึ่งได้ปรากฏขึ้นใกล้ๆกับพวกเขาก่อนที่เสียงของถังซิ่วจะดังออกมาข้างๆหูพวกเขาว่า
“ฉันเอง !”
“บอส !”
เมื่อคนอื่นๆเห็นว่าเป็นถังซิ่วนั้นพวกเขาก็ผ่อนคลายทันที
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะพูดว่า
“มีข่าวดีมาบอกพวกนาย เราโดนล้อมไว้หมดแล้ว ”
หลังเถาเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะถามออกมาด้วยเสียงกระซิบว่า
“เกิดอะไรขึ้น ? เราไม่ได้ทำให้พวกเขารู้ตัวหนิ ? ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่เราบุกเข้ามานี่เราก็ได้สังเกตและพบ……”
เสียงของเขาได้หยุดลงตรงนี้เพราะเขาเองก็ไม่สามารถสังเกตเห็นถังซิ่วและคนทั้งสองนี้ได้
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาว่า
“พวกมันเป็นคนที่มาทีหลังและรวมกันก็มีมากกว่า40คน พวกมันใส่ชุดคลุมสีดำและติดอาวุธหนักมา เรามีสองทางเลือกคือหนึ่งฆ่าพวกมันข้างในก่อนแล้วค่อยออกไปตอบโต้พวกมันหรือทางเลือกที่สองคือฆ่าพวกมันข้างนอกแล้วค่อยเข้าไปฆ่าข้างใน พวกนายจะเลือกแบบไหน ? ”
หลันเถาเองก็ได้มองไปที่ชาหยูและคงหลินหลาง แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่สามารถรับมือกับพวกเขาได้แน่นอน
ชาหยูเองก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“บอส แล้วแต่คุณเลยเราจะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณอย่างเคร่งครัด ”
ถังซิ่วเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่ตะพูดออกมาว่า
“หากว่าเราฆ่าพวกข้างนอกก่อนมันจะต้องทำให้คนข้างในรู้ตัวอย่างแน่นอน เป้าหมายหลังของเราอย่างแรกคือฆ่าพวกมันทั้งหมดและช่วยชีวิตเพื่อนของฉันซึ่งเขาน่าจะอยู่ข้างในนั้น ดังนั้นเราจะแอบรอบเข้าไปฆ่าคนข้างในให้หมดก่อนแล้วค่อยเก็บกวาดพวกข้างนอกอีกที”
หลันเถาเองก็ได้พูดออกมาว่า
“บอส คุณว่าแผนการของคุณมาเลย !”
ถังซิ่วได้ส่ายศีรษะของเขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“หลันเถา เรื่องการวางตำแหน่งนั้นมอบให้นายดูแลและทุกอย่างก็ให้นายรับผิดชอบส่วนฉันเองจะรับผิดชอบเรื่องการลอบฆ่าและช่วยชีวิตดังนั้นนายไม่จำเป็นต้องวุ่นวายกับฉัน”
“รับทราบ !”
หลันเถาเองก็ได้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้ชาหยูและคงหลินหลางได้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาแล้วซึ่งมันทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยเท่า
ถังซิ่วเองก็ได้พูดต่อว่า
“โรงงานแห่งนี้มีพื้นที่กว้างมากๆ ข้างในมีศัตรูอยู่22คนและมียามอยู่ที่หน้าทางเข้าซึ่งคอยทำหน้าที่แจ้งเตือนส่วนคนที่เหลือกำลังพักผ่อนอยู่ภายใน ฉันมีหน้าที่ฆ่าทุกคนข้างในส่วนคนแจ้งเตือนทั้งสองนั้นปล่อยให้พวกนายจัดการ”
หลันเถาเองก็ได้ถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า
“บอส คุณรู้ได้อย่างไร……….”
ถังซิ่วได้ขัดจังหวะคำพูดของเขาทันทีก่อนที่จะพูดออกมาอย่างราบเรียบว่า
“นายไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเข้าใจสถานการณ์ภายในนั้นได้อย่างไรแต่สิ่งที่นายควรจะจำไว้คือสิ่งที่ฉันพูดนั้นถูกต้อง”
หลันเถาเองก็จำได้ถึงความแข็งแกร่งของถังซิ่ว เขาได้พยักหน้าก่อนที่จะคิดแผนการขึ้นภายในใจแล้วสั่งการให้โจมตี
ประตูเหล็กที่หน้าโรงงานได้มียามอยู่สองคน
ณ ตอนนี้ยามที่เป็นชาวต่างชาติได้กำลังถือปืนกลและพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ผ่านมาในวันนี้ ผู้บัญชาการหายไปและคนที่มีตำแหน่งรองจากนั้นก็ถูกฆ่าซึ่งมันทำให้พวกเขาหมดหนทางจริงๆ
“โคร๊ม……”
ถังซิ่วได้ถีบประตูเหล็กนั้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้เขาได้ใช้พลังทั้งหมดในการถีบซึ่งทำให้ประตูทั้งสองบานหล่นทับชายทั้งสองคนทันทีต่อให้พวกเขาไม่ตายก็นะจะแบนจนจำไม่ได้อย่างแน่นอน
“ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว……”
ปืนกลสี่กระบอกและปืนไรเฟิลได้ถูกยิงออกไปทันทีหลังจากที่ประตูได้พังลง กลุ่มคนของกองกำลังเคียวเทพแห่งความตายที่ยังไม่ทันตั้งตัวนั้นก็ได้ถูกฆ่าไปอย่างรวดเร็ว
ที่อีกฝากนึงถังซิ่วได้เข้าไปทางหน้าต่างโรงงานอย่างเงียบๆเพราะที่โรงงานแห่งนี้เองก็มีห้องสำนักงานอยู่เช่นกัน เขาได้ปลดปล่อยจิตสัมผัสออกไปแล้วพบว่าหยวนชูหลิงนั้นได้ถูกมัดไว้ที่นั่นยิ่งไปกว่านั้นคือที่โซฟาเองก็มีชายรูปร่างกำยำกำลังนั่งเล่นกับมีดสั้นในมือของเขา
ระหว่างนั้นเองกองกำลังที่อยู่ในห้องน้ำทั้งสี่คนไม่ได้ถูกฆ่า พวกเขาเริ่มตอบโต้โดยการยิงสวนกลับมา
“เปร้ง….”
กระจกหน้าต่างของโรงงานได้แตกออกก่อนที่ถังซิ่วจะพุ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วพร้อมกับใช้มีดแทงไปที่หน้าอกของชายที่กำลังยิงปืนกลอยู่
ทันใดนั้นถังซิ่วก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าประตูสำนักงานพร้อมกับใช้จิตสัมผัสอีกครั้ง มีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งได้ถือมีดและปืนยืนอยู่ด้านหลังประตูบานนั้น
“โคร๊ม……”
หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามเองได้มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังประตูนั้นถังซิ่วเองก็ได้ปล่อยหมัดออกไปจนทำให้ประตูพังออกแล้วส่งฝ่ายตรงข้ามลอยเคว้งขึ้นไปบนอากาศ ถังซิ่วได้พุ่งตัวออกไปก่อนที่จะเอามีดออกมาแล้วแทงไปที่อีกฝ่ายขณะที่กำลังตกลงมา
ฝ่ายตรงข้ามเองก็ได้ถูกฆ่าโดยถังซิ่วทันที
หยวนชูหลิงที่กำลังถูกมัดอยู่กับที่นั้นได้มองเห็นฉากตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ตาของเขาเบิกกว้างโดยทันที ถังซิ่วได้แข็งแกร่งและโหดเหี้ยมขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้เหมือนกับว่าเขากำลังมองไปที่สัตว์ประหลาดตนหนึ่ง
หากว่าปากของเขาไม่ได้ถูกมัดเอาไว้นั้นเขาคงจะถามถังซิ่วออกมาอย่างดังแล้วว่านั่นมันนายจริงๆหรอ ?
ถังซิ่วเองก็ได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะมองไปที่ท่าทางตกตะลึงของหยวนชูหลิงแล้วเดินไปทางเขาพร้อมกับดึงเทปปิดปากออกก่อนที่จะใช้มีดกองทัพตัดเชือกที่กำลังมัดเขาเอาไว้แล้วพูดว่า
“นายรออยู่ในห้องนี้ก่อน ด้านนอกกำลังปะทะกันอยู่ดังนั้นห้ามออกไปโดยเด็ดขาดส่วนเรื่องที่อยากจะถามอะไรนั้นก็ค่อยพูดหลังจากที่เราออกไปจากที่นี่”
“ตกลง !”
หยวนชูหลิงเองก็ได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าออกมา
ถังซิ่วเองก็ได้หยิบปืนที่วางอยู่ตรงพื้นแล้วเดินไปตามทางสำนักงานก่อนที่จะพบว่ากองกำลังฝ่ายตรงข้ามตายไป4และยังมีอีกสองที่กำลังหลบอยู่ที่มุมๆหนึ่งเพื่อรอการตอบโต้
“เปรี้ยง !”
ที่แอบของพวกเขานั้นได้ถูกค้นพบโดยถังซิ่วซึ่งเขาเองก็ไม่ลังเลเลยที่จะยิงไปใส่พวกเขาถึงสี่นัดจนทำให้สมองของพวกเขาแตกกระจายโดยทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
ได้มีร่างๆหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆถังซิ่ว
หลันเถาเองได้เห็นฉากที่พวกกองกำลังต่างชาติถูกฆ่าด้วยตัวเองจึงได้เอ่ยคำชื่นชมออกมาว่า
“บอส หากว่าคุณเข้าร่วมกับกองทัพก็จะต้องเป็นนักแม่นปืนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน”