…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ถังซิ่วได้รับถุงมาจากมือของเขาพร้อมกับมองไปที่สมุนไพรหญ้ามังกรเงินในมือก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า
“ทั้งหมดรวมเป็น2.8หมื่นหยวน พี่ชายเปิ่นเอาเลขบัญชีมาสิแล้วผมจะโอนไปให้เลยส่วนเรื่องที่จะหารกับซูเขวียนยังไงนั้นก็เป็นเรื่องของพี่แล้ว ”
ซูเปิ่นและซูเขวียนเองก็ได้มองไปที่กันและกันด้วยความตื่นเต้น
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีซูเปิ่นก็ได้เงินไป2.8หมื่นหยวน
“เขวียน นายเจอมันมา7ต้นเพราะฉะนั้นฉันจะโอนไปให้นาย7พัน”
ซูเปิ่นที่เป็นคนตรงๆนั้นก็ได้โอนเงินไปให้ซูเขวียนทันที
ถังซิ่วได้เอาสมุนไพรไปใส่ไว้ในรถก่อนที่จะมองไปที่ซูเขวียนแล้วพูดว่า
“เขวียน ฉันได้คุยกับพี่เปิ่นแล้วว่าจะให้เขาตามฉันกลับไปทำงานที่เมืองสตาร์ซิตี้ นายล่ะจะเอาอย่างไร ? จะไปกับฉันไหม ? ”
ซูเขวียนเองก็ได้ตอบกลับอย่างไม่ลังเลเลยว่า
“พี่เปิ่นเองก็ได้คุยกับฉันแล้ว ฉันจะไปด้วย”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“เอาอย่างงั้นแล้วกัน ตอนนี้ฉันให้นายอยู่กับพี่เปิ่นไปก่อนแล้วกันเพราะนิสัยของพี่เขานั้นเป็นคนที่ง่ายๆและซื้อสัตย์แต่นายเป็นคนที่กระตือรือร้นดังนั้นฉันจะหาอย่างอื่นให้นายทำทีหลัง”
ซูเขวียนเองก็ได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า
“อยู่กับนายแล้วฉันก็สบายใจ”
“ริ้งงงงงงงง ริ้งงงงงงงงงงงง ริ้งงงงง….”
ถังซิ่วที่กำลังจะพูดต่อนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าทันที เมื่อเขาหยิบมันออกมานั้นก็ผมว่าเป็นฮั่นชิงหวูที่โทรมา
“สวัสดีครับคุณครูฮั่น”
ถังซิ่วได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ถังซิ่ว เธอดูคะแนนของเธอสิ ! สวรรค์ ! คะแนนเต็มของการสอบนั้นคือ750คะแนน เธอ ธะ ธะ….เธอได้คะแนนตั้ง746 สุดยอด น่าทึ่งเกินไปแล้วฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ อีกแค่4คะแนนเท่านั้นเธอก็จะได้คะแนนเต็ม อ๊า !!!”
เสียงร้องของฮั่นชิงหวูก็ได้ถูกส่งผ่านมาทางปลายสาย
ถังซิ่วเองก็เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ผลคะแนนจะออกแต่เมื่อได้ยินคำพูดของฮั่นชิงหวูนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอได้ตรวจสอบคะแนนจากเลขที่นั่งสอบของเขาดังนั้นเขาจึงได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณครูฮั่น ผมบอกไปแล้วใช่ไหมว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อคุณ อ่อใช่แล้วผลคะแนนของหยวนชูหลิงกับเฉิงเยี่ยนหนานล่ะเป็นอย่างไร ?”
ฮั่นชิงหวูเองก็ได้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันยังไม่ได้ดูคะแนนของพวกเขาเลยแต่ฉันก็มั่นใจในตัวพวกเขา ยินดีด้วยนะถังซิ่ว”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ผมเองก็ต้องขอขอบคุณคุณครูฮั่นที่คอยให้ที่พักพิงแก่ผมเช่นกัน!”
ฮั่นชิงหวูเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“รู้ไว้ก็ดีแล้ว ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ? ฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเพื่อเป็นการฉลองที่คะแนนสอบของนายโดดเด่นขนาดนี้”
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปว่า
“ตอนนี้อยู่ที่บ้านเกิดแถวๆชานเมืองเพราะเกิดอุบัติเหตุขึ้นภายในครอบครัว เมื่อผมกลับไปถึงเมืองสตาร์ซิตี้แล้วจะติดต่อคุณเอง”
“ดี !”
ฮั่นชิงหวูเองก็ได้ตอบกลับไป
เมื่อวางสายเสร็จแล้วถังซิ่วก็ได้ตรวจคะแนนของตัวเอง สิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจนั้นก็คือนอกจาก4คะแนนของวิชาภาษาจีนแล้วเขาก็ได้เต็มทุกวิชา
“ริ้งงงงงงงงง ริ้งงงงงงงงง……”
ขณะที่ถังซิ่วกำลังนับคะแนนอยู่นั้นก็ได้มีสายโทรเข้าอีกครั้งซึ่งมันเป็นเบอร์ของโอหยางลูลู่
“ลูลู่ เธอมีอะไรงั้นหรอ ?”
ถังซิ่วเองก็ได้ถามออกมาอย่างมีความสุข
โอหยางลูลูเองก็ได้ถามออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“ถังซิ่ว คะแนนสอบของนายน่าจะออกแล้ว นายได้คะแนนเท่าไหร่กัน ? ”
ถังซิ่วได้ตอบกลับไปว่า
“746 !”
โอหยางลูลู่ก็ได้ถามต่อว่า
“คะแนนเต็มเท่าไหร่ ? ”
ถังซิ่วก็ได้ตอบกลับไปว่า
“หักจากภาษีจีนไป4คะแนนที่เกี่ยวกับเรียงความแล้วที่เหลือได้เต็มหมดทุกวิชา”
“อะไรนะ ? นายหมายถึงขาดอีก4คะแนนก็จะสอบเข้าด้วยคะแนนเต็ม ? ”
เสียงกรีดร้องของโอหยางลูลู่ได้ดังออกมาทางโทรศัพท์ของเขา
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“ใช่แล้ว !”
โอหยางลูลู่เองก็ได้พูดออกมาด้วยความตกตะลึงว่า
“ถังซิ่ว…..นายไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม ? สวรรค์ ! นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว แสดงว่านายได้คะแนนเต็มในวิชาวิทยาศาสตร์ใช่ไหม ? ตำแหน่งคะแนนวิทยาศาตร์สูงสุดในจังหวัดนี้ต้องเป็นของนายอย่างแน่นอน ”
ถังซิ่วเองก็ได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“จะยังไงก็ช่างเถอะแค่เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้ก็พอแล้ว”
โอหยางลูลู่ได้ชื่นชมออกมาว่า
“ถังซิ่ว ฉันรู้อยู่แล้วว่านายมันน่าทึ่งแต่ไม่คิดเลยว่าจะขนาดนี้ จะมาที่เกาะจิงเหมินตอนไหน ? ฉันจะเลี้ยงข้าวฉลองให้นายเอง”
ถังซิ่วเองก็ได้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เดี๋ยวฉันเสร็จธุระที่นี่เมื่อไหร่แล้วจะไปหาเธอที่เกาะจิงเหมินทันที”
“ดีมาก !”
โอหยางลูลู่เองก็ได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
ซูเปิ่นและซูเขวียนที่ยืนอยู่ข้างๆถังซิ่วก็กำลังตกตะลึงอยู่เช่นกันตั้งแต่ที่เห็นถังซิ่วตรวจคะแนนของเขา พวกเขาเป็นคนที่เข้าใจดีว่าการที่ถังซิ่วสอบได้คะแนนถึง746นั้นหมายความว่าอย่างไร
“ถัง….”
ซูเขวียนเองก็ได้เปิดปากแต่เสียงโทรศัพท์ของถังซิ่วก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
ถังซิ่วได้มองไปที่หน้าจอของมันก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา เขาได้ส่ายศีรษะไปทางซูเขวียนพร้อมกดปุ่มตอบรับแล้วพูดออกมาว่า
“หลงเจิ้งหยู นายมีอะไรงั้นหรอ ? ”
“ถังซิ่ว คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกแล้ว นายได้ดูมันหรือยัง ? ได้คะแนนเท่าไหร่กัน ?”
“746”
“เท่าไหร่นะ ?”
“746!”
“พระเจ้าช่วย…….”
ตลอดเวลา40นาทีนี้ถังซิ่วได้รับสายกว่า20สายและทุกคนเองก็ถามเกี่ยวกับเรื่องคะแนนสอบเข้าของเขา หลี่ฮงจี้ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเมืองสตาร์ซิตี้เองก็ได้โทรมาหาถังซิ่วเช่นกันและเมื่อพวกเขาได้รับรู้คะแนนแล้วก็ได้ตกตะลึงไปเหมือนๆกัน
พวกเขารู้ว่าถังซิ่วนั้นน่าทึ่ง!
น่าทึ่งในหลายๆด้าน !
แต่พวกเขาไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าถังซิ่วจะสามารถเรียนได้ดีขนาดนี้ !
อย่างไรก็ติดต่อไปที่หยวนชูหลิงและเฉิงเยี่ยนหนานก่อนที่จะรู้ว่าหยวนชูหลิงได้คะแนน663และหากว่าดูตามใบสมัครแล้วต่อให้ไม่สามารถเข้าโรงเรียนชั้นนำได้แต่ออย่างอื่นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรส่วนเฉิงเยี่ยนหนานนั้นยังมีความหวังว่าจะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชั้นนำขึ้นมาหน่อยเพราะเธอได้674คะแนน
ณ ตอนนี้
ซูหลิงหยุนเองก็ได้เดินมาจากห้องครัวและเห็นว่าถังซิ่วกำลังคุยอยู่กับซูเปิ่นและซูเขวียนจึงได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ซูเปิ่น ซูเขวียนอยู่ทานอาหารด้วยกันก่อน ซิ่วน้อยแม่จำได้ว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างแต่แม่ก็นึกไม่ออก ลูกบอกว่า…..”
ถังซิ่วได้ขัดจังหวะคำพูดของเธอก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“แม่ครับ ผมเพิ่งตรวจดูคะแนนสอบไปแล้วพบว่าผมสอบได้คะแนน746เต็ม750ครับ”
ซูหลิงหยุนเองก็จ้องมองอยู่นาน นัยน์ตาคู่กลมของเธอเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับปรากฏความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อออกมา เธอได้วิ่งมาตรงหน้าถังซิ่วก่อนที่จะกุมมือเข้าไว้ทั้งสองข้างแล้วถามออกมาว่า
“เท่าไหร่นะ ? ลูกสอบได้เท่าไหร่นะ ? ”
“746 ขาด 4คะแนนก็ได้คะแนนเต็ม”
ซูหลิงหยุนเองก็ได้มองไปที่ถังซิ่วก่อนที่น้ำตาสองสายจะไหลออกมาไม่หยุด เธอปล่อยมือของเขาพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งร้องไห้อยู่ที่พื้นด้วยเสียง “ฮื้อ ฮื้อ”
ถังซิ่วเองก็ได้ก้มตัวลงก่อนที่จะพยุงแขนของเธอไว้เบาๆ เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้ร้องไห้ เขาไม่ได้ปลอบเธอแต่ปล่อยให้เธอร้องไห้อย่างที่เธอต้องการ
ซูเปิ่นและซูเขวียนเองก็มองไปที่กันและกันก่อนที่จะเดินจากไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีซูหลิงหยุนเองก็ได้หยุดร้องไห้ก่อนที่จะเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมามองไปที่ถังซิ่วด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า
“ลูกแม่ แม่รู้ว่าลูกเก่งที่สุด !”
ถังซิ่วเองก็ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณแม่ แม่ก็เก่งที่สุดสำหรับผม!”
โรงพยาบาลคนแรก (*ชื่อโรงพยาบาล) ของเมืองสตาร์ซิตี้
ซันเหว่นจิงได้ถือเอกสารรายงานออกมาจากตึกของโรงพยาบาลพร้อมกับครอบครัวซันที่กำลังยืนคอยอยู่ด้านนอกและจ้องมองไปที่เอกสารที่อยู่ในมือเธอ เมื่อเห้นหน้าตาและท่าทางของซันเหว่นจิงแล้วทุกคนเองก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
“เหว่นจิง ผลตรวจเป็นอย่างไรบ้าง ? ”
ซันเจียนไฮ่เองก็ได้วิ่งมาหาเธอก่อนที่จะถามออกมาอย่างรวดเร็ว
ซันเหว่นจิงเองก็ได้ยื่นเอกสารไปให้เขาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“พี่ใหญ่ พี่ลองดูสิ”
ซันเจียนไฮ่เองก็ได้รับเอกสารมาจากมือเธอก่อนที่จะตรวจมันด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ เขามองไปที่มันไม่กี่วินาทีก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความสุข
“ไม่มีเซลล์มะเร็งอีกแล้ว! โรคมะเร็งถูกรักษาแล้ว !!!”
ซันเจียนจุน ซันเหว่นหมินและหญิงชราเองก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาได้เอาผลตรวจมาดูอีกครั้งขณะที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมีความสุข
ณ ตอนนี้
ซันเหว่นจิงเองจากที่กำลังตกตะลึงอยู่นั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นสุขุมทันทีก่อนที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของถังซิ่วจะปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเธอ เธอได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“ถังซิ่ว ครอบครัวของเราต้องขอบคุณนายจริงๆ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาจากคนอื่นว่าเขาเป็นหมอเทวดาแต่ก็คิดว่าคงไม่เท่าไหร่นักแต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วว่าเขาเป็นหมอเทวดาจริงๆ เป็ยหมอเทวดาในหมู่หมอเทวดาอย่างแท้จริง”
ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“แน่นอน การที่เขาสามารถรักษาทะเร็งตับระยะที่สองได้นั้นก็ถือว่าเขาเป็นหมอเทวดาทีเก่งที่สุดในโลกนี้แล้วอย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้เราป่าวประกาศออกไปดังนั้นเราจำเป็นต้องเก็บมันเป็นความลับ ฉันเองก็เห็นด้วยกับความคิดของเขาเป็นอย่างมากแม้ว่าข่าวที่เขารักษาโรคมะเร็งได้จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมายแต่มันก็นำปัญหามาด้วยเช่นกัน”
ซันเหว่ยหมินเองก็ได้พูดออกมาว่า
“แม้ว่าถังซิ่วจะไม่ต้องการผลประโยชน์จากพวกเราแต่บุญคุณนี้เราต้องตอบแทน อ่อใช่พี่สาวได้บอกมาว่าแม้เขาจะเป็นหมอที่โรงพยาบาลแต่ก็เพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปหยกๆและวันนี้เองก็เป็นวันที่ผลคะแนนจะออกมา หากว่าผลคะแนนของเขาไม่ดีฉันจะใช้เส้นสายเพื่อให้เขาได้มีที่เรียนเอง เพื่อเก่าของฉันบางคนก็เป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองหลวงส่วนสามีเธอเองก็เป็นผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยซึ่งเขาเองก็มีโควต้ารับนักเรียนอยู่ในมือ”
ซันเจียนไฮ่เองก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
“เอาตามนั้นแล้วกัน เหว่นจิงเธอโทรไปถามเขาสิว่าผลคะแนนของเขาเป็นอย่างไรและหากว่ามันไม่พอเราก็จะให้เหว่นหมินจัดการ”
“ได้!”
ซันเหว่นจิงเองก็ได้พยักหน้าก่อนที่จะโทรไปหาถังซิ่วทันที
หลังจากผ่านไปสองนาทีใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันทีหลังจากที่การสนทนาสิ้นสุดลง
คิ้วของซันเจียนไฮ่ได้ขมวดเข้าหากันก่อนที่จะถามออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำว่า
“ยังไง ? คะแนนเขาแย่ขนาดนั้นเลย ? ”
ซันเหว่นจิงเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างฝืนๆแล้วพูดว่า
“มันไม่ใช่แย่เกินไป แต่มันดีเกินไป ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาสอบได้คะแนน746และขาดเพียง4คะแนนที่จะได้เต็มเท่านั้น !”
“อะไรนะ ?”
ครอบครัวของตระกูลซันเองก็ได้เหวอทันทีเมื่อได้ยินทำพูดของเธอ พวกเขารู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน
ซันเจียนไฮ่เองก็ได้พูดออกมาอย่างขมขื่นว่า
“ดูเหมือนว่าเราจะช่วยเขาในด้านนี้ไม่ได้เสียแล้ว เราค่อยคิดมันทีหลังแล้วกัน! บุญคุณครั้งนี้ครอบครัวของเราจะจดจำเอาไว้ในใจ”