…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(*เปลี่ยนดวงดาวเป็นดวงดาราให้หมดเลยแล้วกัน เดะจะงง)

ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวฤกษ์สว่างในขณะที่คลื่นของความร้อนค่อยๆแผ่เข้ามา ในส่วนลึกของท้องฟ้ากำลังถูกเติมเต็มไปด้วยดวงดาราเหมือนกับว่ามันกำลังตอบสนองการเรียกของใครบางคน ท้องฟ้าที่มืดมิดในตอนนี้สว่างไสวดั่งว่ากำลังเป็นช่วงกลางวัน

พลังแห่งดวงดาราที่มหาศาลได้เป็นเหมือนกระแสน้ำที่กำลังไหลลงมาจากฟากฟ้าและจุดตกของมันคือวิลล่าในเมืองประตูทิศใต้ที่ถังซิ่วกำลังบ่มเพาะพลังอยู่

มู่ขวินปิงได้ตื่นจากอาการช็อก แม้ว่าถังซิ่วจะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายได้แต่ฉากแปลกๆยังดึงดูดเธอ เธอสามารถบอกได้ว่าถังซิ่วกำลังบ่มเพาะ แต่สำหรับเธอแล้วนั้นการบ่มเพาะแบบนี้น่ากลัวเกินไปทำให้ลึกๆในใจของเธอเริ่มเกิดความกังวลขึ้น ถ้าหากว่าลูกสาวของเธอต้องได้รับประสบการณ์เช่นนี้ …

หลังจากผ่านไปนาน …

มู่ขิวนปิงได้ถอยห่างจากประตูพร้อมปิดมันอย่างเงียบๆ

ภายในคลังสินค้า

ถังซิ่วก็ยังอยู่ในท่าบ่มเพาะของเขาพร้อมกำลังดูดกลืนพลังแห่งดวงดารามหาศาลที่กำลังไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้งจากทุกทิศทุกทาง ก่อนหน้านี้ดาวทั้ง9ดวงภายในจุดตันเทียน ของเขาเริ่มขยายตัวพร้อมกับการไหลเข้าของพลังที่กำลังดูดกลืนเข้ามา เขตแดนข้างในจุดตันเทียนของเขากำลังขยายกว้างขึ้นพร้อมฉีกออกและซ่อมแซมเพราะมันกำลังถูกเติมเต็มด้วยพลังแห่งดวงดารา

“บูม … ”

ขณะที่ถังซิ่วกำลังจมอยู่กับการบ่มเพาะพลังของเขา ดาวทั้ง 9ดวงภายในตันเทียนของเขาได้ขยายไปสู่ขีดจำกัด พลังงานนั้นรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ วิสัยทัศน์ของเขาเริ่มมืดลงเพราะปัจจุบันนั้นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้ทำให้เขาเกือบจะโห่ร้องออกมา

สติของเขานั้นมั่นคงเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะต้องแบกรับความเจ็บปวดอย่างมากแต่เขากลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเพราะเขารู้ว่าดวงดาราภายในตันเทียนของเขาทั้ง9ดวงนั้นได้กลายเป็น18ดวงในขณะนี้ ดาวทั้ง18ดวงเต็มไปด้วยแสงสว่างที่เปล่งประกายออกมาพร้อมกับขนาดที่ไม่ต่างไปจากเดิม

หนึ่งในสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดสำหรับถังซิ่วก็คือพลังแห่งดวงดาราภายในตันเทียนที่ก่อนหน้านี้ถึงขีดจำกัดแล้วนั้น ตอนนี้กลับว่างเปล่าพร้อมกับขนาดของตันเทียนที่สามารถรองรับพลังแห่งดวงดาราด้วยมากกว่าเดิม10เท่า

“หรือว่านี่คือขั้นเสริมสร้างผิวหนัง”

ถังซิ่วค่อยๆเปิดตาขึ้นในขณะที่แสงได้หายไปจากดวงตาของเขา เกล็ดเลือดที่ห่อหุ้มตัวเขาเหมือนกับรังไหมนั้นกำลังแตกออกก่อนที่มันจะหล่นลงบนพื้น

เขาได้บีบมือของเขา!

ถังซิ่วได้ยินเสียงที่ถูกส่งออกมาจากกำปั้นของเขา

“20,000 ปอนด์!”

รูปลักษณ์ที่พึงพอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

เพราะระดับพลังของเขาได้เพิ่มขึ้นนั่นจึงทำให้ความแข็งแรงทางกายภาพและแรงของเขาก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ตอนนี้เขามั่นใจว่าถ้าเขาเจอคนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับผู้ค้าอวัยวะต่างๆของมนุษย์ เขาก็จะสามารถฆ่าพวกเขาได้โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาวุธปืนของศัตรู

การอยู่ในขั้นรวบรวมพลังฉีนั้นทำให้เขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดานิดหน่อยแต่การบรรลุถึงขั้นเสริมสร้างผิวหนังนั้นทำให้เขามีความสามารถในการปกป้องตนเองอย่างแท้จริง แม้ว่าเขาจะได้พบกับบรรดาผู้ฝึกวิทยายุทธระดับปรมาจารย์ เขาก็ยังสามารถที่จะจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

“ตอนนี้ตั้งแต่ที่ฉันได้เข้าสู่ขั้นเสริมสร้างผิวหนังแล้ว สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือการดูดกลืนพลังแห่งดวงดาราให้เต็มจุดตันเทียนของฉันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อถึงเวลานั้นแล้วฉันก็จะก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดของขั้นเสริมสร้างผิวหนังและถ้าฉันสามารถไต่ระดับขึ้นไปสู่ระดับเสริมสร้างกระดูกได้แล้วละก็ จำนวนดวงดาราภายในร่างของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเป็น36ดวง เมื่อเวลานั้นแล้ว ความแข็งแกร่งของฉันจะต้องมากมายอย่างแน่นอน! ”

ถังซิ่วได้ใส่เสื้อผ้าแต่เขาไม่ได้ทำความคลังสินค้าพร้อมรีบเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการบ่มเพาะนั้นจะทำให้ร่างกายขับของเสียและเลือดออกมา แม้ว่าสิ่งสกปรกจะแข็งตัวเป็นเกล็ดเลือดก็ตามแต่กลิ่นเหม็นยังติดตัวของเขา ดังนั้นเขาจึงรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำและอาบน้ำซ้ำถึงสองสามครั้งและอาบน้ำจนกลิ่นเหม็นที่อยู่บนร่างของเขาได้รับการชำระล้างไปจนหมด

หลังจากที่ได้อาบน้ำอย่างมีความสุขแล้ว เขารีบใส่เสื้อผ้าที่สะอาดแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นด้วยความรู้สึกสดชื่น เขาได้เห็นมู่ขวินปิงนั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่กำลังเหม่อลอย ถังซิ่วได้ถามออกมาว่า

“ฉันบ่มเพาะไปทั้งวันเลยหรอ? ตอนนี้ท้องฉันเริ่มร้องแล้ว ช่วยหาอะไรให้ฉันกินหน่อยสิ ”

มู่ขวินปิงที่นั่งอยู่บนโซฟาได้ไม่นานนั้น หลังจากได้ยินเสียงของถังซิ่วแล้ว เธอรีบกระโดดขึ้นจากโซฟาพร้อมจ้องมองไปที่ถังซิ่วด้วยแววตาที่หวาดกลัวแต่เมื่อเห็นถังซิ่วที่กลับเป็นเหมือนเดิมแล้วพร้อมกับผิวที่ดูขาวใสขึ้น นั่นทำให้เธอถามออกมาว่า

“คุณ … ร่างกายของคุณ!”

ริมฝีปากของมู่ขวินปิงกระตุกเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยเสียงเบา

ถังซิ่วจ้องมองอย่างว่างเปล่า เขาจำได้ว่าเมื่อเขาออกจากโกดังนั้น เขาได้เห็นถ้วยชามที่แตกอยู่ตรงพื้นซึ่งยังไม่ได้ทำความสะอาด จากนั้นเขาก็ถามด้วยความตกตะลึงว่า

“คุณได้ไปที่โกดังและเห็นฉันอยู่ในการบ่มเพาะงั้นหรอ?”

มู่ขวินปิงรีบตอบว่า

“ตอนแรกฉันอยากจะเอาอาหารมื้อเย็นไปส่งให้คุณ ฉันไม่เคยคิดว่าคุณอยู่ในการบ่มเพาะ นอกจากนี้ ในเวลานั้น … ร่างกายของคุณ … ”

เขาได้รำลึกถึงฉากตอนที่เขาเปลือยกายอยู่ในท่าทางของเขาและแม้แต่การที่เธอได้เห็นมันโดยบังเอิญทำให้เขาเกิดความอาย เขาเงยหน้าขึ้นและลูบคิ้วของเขาขณะที่พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ร่างกายฉันปกติดีและดียิ่งกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม … ฉันหิวจริงๆคุณสามารถหาอะไรให้ฉันกินหน่อยได้ไหม? ”

มู่ขวินปิงได้ตอบอย่างรวดเร็วว่า

“อืม ฉันจะทำอาหารให้กับคุณตอนนี้ ก็คุณบ่มเพาะพลังตั้ง3วันไม่ใช่หรอ? ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คุณจะหิว ”

ถังซิ่วร้องอุทานด้วยความแปลกใจว่า

“พูดว่าอะไรนะ? คุณบอกว่าฉันบ่มเพาะมา3วันแล้ว? ”

มู่ขวินปิงพยักหน้าและพูดว่า

“ใช่! ได้ใช้เวลาอยู่ในโกดังสินค้าถึง3วัน4คืน แต่เดิมนั้นฉันคิดว่าการบ่มเพาะเป็นเรื่องง่าย แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกินเวลานานมากขนาดนี้ ”

ปากของถังซิ่วกระตุกไม่กี่ครั้งขณะที่เขานั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางที่หมดหวัง

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าการหล่อหลอมร่างกายเข้ากับน้ำยาระฆังทองและพยายามบรรลุขั้นเสริมสร้างผิวหนังนั้นน่าจะใช้เวลาอย่างมากแค่2วัน แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้เวลาถึง3วัน4คืนและเมื่อคำนวณถึงเวลาที่กงดาหลงได้ลาหยุดให้เขานั้น มันเลยเวลามากว่า2วันแล้ว

“เวรเอ๋ย ตอนที่ฉันกลับไปที่โรงเรียนแล้วจะไม่ต้องโดนฮั่นชิงหวูตำหนิอย่างรุนแรงเป็นชุดเลยหรือไง? ”

ถังซิ่วยิ้มออกมาอย่างเจือนๆ

ทันใดนั้นมู่ขวินปิงได้ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมพูดกับถังซิ่วว่า

“หมอศักดิ์สิทธิ์ถัง ฉันได้เข้าไปทำความสะอาดห้องของคุณในขณะที่คุณยังคงฝึกซ้อมอยู่และได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของคุณดังตลอดเวลา ฉันสังเกตได้ว่าใน2วันมานี้มีเสียงเรียกเข้าอย่างน้อยก็หลายสิบครั้ง ”

“ฉันรู้แล้ว!”

ถังซิ่วหยุดชั่วครู่หนึ่งแล้วรีบกระโดดออกจากโซฟาพร้อมเดินขึ้นบันไดไป หลังจากที่เข้าห้องนอนแล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาและเห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับสายจากหน้าจอและมีข้อความSMSที่ยังไม่ได้อ่าน ปากของเขาค่อยๆกระตุกเล็กน้อยพร้อมกับการแสดงออกที่ช่วยไม่ได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

เขาแทบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ!

สายที่ไม่ได้รับกว่า100นี่ต้องเป็นของฮั่นชิงหวูอย่างแน่นอน!

ตามที่เขาคาดไว้!

เมื่อเขาเปิดหน้าต่างติดต่อผู้ใช้ที่ไม่ได้รับสาย เขาได้เห็นว่าฮั่นชิงหวูโทรหาเขาถึง24สาย! นั่นก็ถือว่ามากทีเดียว !

ถังซิ่วมองลงมาเล็กน้อยขณะที่ดวงตาของเขากวาดไปที่รายชื่อของคนอื่นในรายการ 42 สายที่ไม่ได้รับจากหยวนชูหลิง,19จากหลงเซ้งหยู,32จากเฉินซีซ่งและ 6สายที่ไม่ได้รับจาก2หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย

“ฮะ?”

เมื่อรายชื่อสุดท้ายนั้น คิ้วของเขาได้ขมวดโดยทันทีเพราะนี่เป็นสายที่ไม่ได้รับจากบั่นโฉวและมันมากถึง12สาย เขาไม่ลังเลเลยที่จะโทรกลับหาบั่นโฉวทันที เขารู้ดีว่าบั่นโฉวจะไม่มีทางโทรหาเขาถ้าไม่ได้มีอะไรที่สำคัญและเรื่องนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกี่ยวข้องกับแม่ของเขา

“สวัสดี บอสนี่คุณเหรอ?”

ได้มีเสียงถูกส่งออกมาจากโทรศัพท์

ถังซิ่วตอบด้วยเสียงที่ลึกว่า

“ฉันเอง! เกิดอะไรขึ้น? นายโทรหาฉันกว่า10สาย! ”

“บอส ถ้าคุณมีเวลาได้โปรดมาที่โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้อย่างรวดเร็ว”

เสียงของบั่นโฉวดังขึ้นอีกครั้ง

ลมหายใจของถังซิ่วหยุดชะงักทันที ใบหน้าของเขากลายเป็นน่าเกลียดอย่างฉับพลัน จากนั้นเขาก็ถามด้วยเสียงตะโกนว่า

“มีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ฉันไหม?”

บั่นโฉวได้ตอบอย่างรวดเร็วว่า

“ใช่!บอสใหญ่ได้รับบาดเจ็บแม้ว่าอาการจะไม่สาหัสมากแต่ก็ต้องพักนานหลายเดือน ผมและดิ่งซี่ได้รออยู่ที่นี่! ”

“บอกตำแหน่งที่แน่ชัดมา!”

ถังซิ่วตอบกลับมาขณะที่วิ่งออกจากห้องนอน

บั่นโฉวได้บอกว่า

“โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้,แผนกผู้ป่วยใน, ชั้น 6ห้อง 405 บอสครับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมอยากบอกคุณล่วงหน้า แม่ของคุณได้รับบาดเจ็บจากคนที่ชื่อไทหลงและเขาแข็งแกร่งอย่างมาก ผมและดิ่งซี่ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันแต่เราไม่กล้าที่จะออกไปนอกโรงพยาบาลเพราะว่าเขาได้ส่งคนมาดักรอไว้หน้าโรงพยาบาลแล้วและตราบใดที่เราออกไปนั้นจะต้องถูกทุบตีอย่างทารุณอย่างแน่นอน พวกนั้นได้บอกไว้ว่าหากเราไม่ขอโทษมันแล้วละก็ มันจะไม่ให้เราได้ออกไปจากหน้าโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ”

“ไอสารเลว!!!!”

จิตสังหารที่น่าสยดสยองได้ทะลักออกมาจากดวงตาของถังซิ่ว เขารีบวางสายพร้อมวิ่งออกจากวิลล่าด้วยอย่างเร็วที่สุด เมื่อที่จัตุรัสของวิลล่าแล้ว เขาก็พบกับพนักงานจัดการจำนวนหนึ่งซึ่งมาพร้อมกับหลงซูเหยาที่กำลังตรวจสอบสภาพแวดล้อมภายในวิลล่า

ถังซิ่ววิ่งไปข้างหน้าของหลงซูเหยา นั่นทำให้พนักงานที่ตามมานั้นมองเขาด้วยความระมัดระวัง แต่ถังซิ่วก็ไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย เขามองไปที่หลงซูเหยาและพูดด้วยเสียงกระหึ่มว่า

“คุณมีรถไหม?”

“มี!”

เมื่อมองไปที่การแสดงออกที่หดหู่ของถังซิ่วก็มีความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นภายในหัวใจของหลงซูเหยาแต่เธอก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา

ถังซิ่วได้พูดต่อว่า

“คุณสามารถพาฉันไปส่งที่โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้ได้หรือไม่?ฉันมีเรื่องเร่งด่วนที่นั่น! ”

“ตกลง!”

หลงซูเหยา ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะพยักหน้าและปฏิบัติตาม เธอมองไปที่พนักงานไม่กี่คนที่มาพร้อมกับเธอและพูดว่า

“วันนี้เราจะพอก่อน! หากว่ายังแก้ปัญหาไม่ได้เราก็จะคุยกันในภายหลัง พวกคุณสามารถกลับไปทำงานของคุณได้แล้ว ”

หลังจากที่เธอพูดจบก็ได้รีบตรงไปที่ลานจอดรถของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์

ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ได้นำถังซิ่วไปทางรถBMWสีขาว เมื่อเปิดประตูก็ได้มองไปที่ถังซิ่วขณะที่ถามว่า

“คุณขับหรือฉันขับ?”

ถังซิ่วรีบตอบว่า

“ฉันไม่มีใบขับขี่”

หลงซูเหยามองไปที่ถังซิ่วด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้เขาเองก็โตแล้วและน่าจะได้รับการทดสอบใบขับขี่มานานแล้วไม่ใช่?พิจารณาจากสถานะที่พิเศษของเขาแล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่เขายังไม่มีใบขับขี่?

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะมีคำถามเหล่านี้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามออกมาขณะที่เธอพยักหน้าและนั่งบนเบาะคนขับ เธอสตาร์ทรถและมองไปที่ถังซิ่วที่นั่งอยู่ข้างคนขับพร้อมพูดว่า

“ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้างไหม? ฉันมีคนรู้จักอยู่ในโรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้ ”

ถังซิ่วได้ตอบว่า

“ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจ ไปที่นั่นก่อนแล้วเราค่อยว่ากันอีกครั้ง ”

เมื่อเห็นว่าถังซิ่วไม่ได้ปฏิเสธโดยตรงแล้ว เธอก็สามารถคาดเดาได้อย่างชัดเจนว่าคนที่อยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์จีนเมืองสตาร์ซิตี้นั้นต้องเป็นคนที่ถังซิ่วห่วงใยอย่างแน่นอนและบุคคลนั้นมีแนวโน้มที่จะป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ